พบร่องรอย 13 ชีวิต “ถ้ำหลวง” ปรับแผนช่วยชีวิต
วันที่ 25 มิถุนายน 2561 นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 15 จ.เชียงราย กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามช่วยเหลือทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ที่ติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยล่าสุดหน่วยซีล ทีมแรกสามารถเข้าถึงได้โพรงถ้ำที่มีน้ำท่วมลึก 5 เมตรแล้ว และพบร่องรอยเท้าของเด็กๆ แต่ยังไม่พบตัว ซึ่งสันนิษฐานว่าทั้ง 13 คนน่าจะเดินลึกเข้าไปอีก นอกจากนี้ หน่วยซีลทั้ง 4 ชุด ที่เข้าทำการค้นหายังได้มีการนำเสบียงอาหาร พร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตติดตัวไปด้วย ซึ่งหากพบทีมฟุตบอล ก็จะสามารถทำการช่วยเหลือเบื้องต้นได้ทันที ตอนนี้มีการตั้งโจทย์ใหม่ว่าถ้าเจอเด็กๆ จะมีวิธีการลำเลียงออกจากถ้ำที่มีความลึก 5 เมตรจากโพรงถ้ำได้อย่างไร เพราะสถานการณ์ทุกอย่างต้องทำงานแข่งกับเวลา และน้ำที่อาจจะเพิ่มปริมาณสูงขึ้นจากปัจจัยทั้งฝนตก และน้ำจากฝายด้านนอกเข้ามาเติม
ขณะที่บริเวณปากถ้ำ มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของการช่วยชีวิต และส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาต่อยังโรงพยาบาล ซึ่งทางกองบังญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ก็ได้มีการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์สำหรับการลำเลียงส่งต่อผู้ป่วยอีกทางหนึ่งด้วย นายกมลไชย ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเด็กๆอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ยืนยันว่าการเที่ยวถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จะต้องมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่นำทาง เพราะถ้ำแบบนี้ ไม่ได้เปิดให้เข้าท่องเที่ยวโดยพลการ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนจะมีปัญหาน้ำหลาก และคนในพื้นที่จะรู้สภาพพื้นที่ดีอยูแล้ว ประกอบกับมีการทำป้ายเตือนที่ด้านหน้าถ้ำอยู่แล้วว่าห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต
ต่อมาเวลา 15.30 น.เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า บริเวณเหนือถ้ำหลวง -ขุนน้ำนางนอน มีปล่องที่ทะลุออกมานอกถ้ำได้ เจ้าหน้าที่จึงใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจบริเวณเหนือถ้ำ ก่อนเจอปล่องตามคำบอกเล่าของชาวบ้านโดยปล่องดังกล่าว มีระยะห่างจากโถงจุดแรกภายในถ้ำหลวง -ขุนน้ำนางนอน ประมาณ 800 เมตร แต่ภายในถ้ำจะมีเส้นทางที่คดเคี้ยวและระยะทางที่ยาวกว่านั้น ตอนนี้เจ้าหน้าที่จึงโยนอาหารและขนมลงไปในปล่องดังกล่าว พร้อมกระดาษที่เขียนขอความว่า “ถ้าเจอขนมให้หยุดรอหน่วยซีล” กำลังเดินไปตามหาทาง 7 กิโลเมตร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมสำรวจเส้นทางของปล่องที่อยู่เหนือถ้ำด้วย
Leave a Reply