ปฏิบัติการช่วยเหลือเด็กนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนหาย ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง

จากกรณีมีเด็กนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนหายเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงรายเมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมาต่อมานายดำรงค์หาญภักดีนิยมหัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนสำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 รับแจ้งว่ามีผู้ที่พากันเดินทางเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลายคนแล้วไม่กลับออกมาอีกเลยโดยพบรถจักรยานรองเท้าบริเวณทางเข้าถ้ำ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2561 พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ(ผบ.นสร.)กองทัพเรือมอบหมายให้น.อ.อนันต์ สุราวรรณ ผบ.กรมรบพิศษที่ 1 ทหารเรือนำกำลังพลทหารเรือกรมราบพิเศษหรือหน่วยซีลเข้าปฏิบัติการค้นหาเพื่อช่วยเหลือทีมนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนจาก ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย รวม 13 คนที่พลัดหลงติดอยู่ภายในถ้ำหลวงเขตวนอุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนหมู่บ้านจ้องวัด หมู่ที่ 9 ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมาแล้วออกมาไม่ได้ โดยปฏิบัติการค้นหาเพื่อช่วยเหลือดังกล่าวมีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายและหน่วยกู้ภัยรวมทั้งนักประดาน้ำเข้าให้การช่วยเหลือแต่เนื่องจากถ้ำมีความลึกและจุดที่คาดว่ากลุ่มเด็กๆจะติดค้างอยู่ลึกกว่า 3 กิโลเมตรและยังเป็นถ้ำที่มีเอกลักษณ์คือเป็นถ้ำใหญ่ที่มีลำธารไหลขนานกับความลึกของถ้ำไปตลอดแนว ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมโพลงด้านข้างลึกลงตามปริมาณน้ำและฝนที่ตกลงมาขณะที่จุดที่คาดว่ากลุ่มเด็กๆติดอยู่เป็นโพลงใหญ่ที่มีน้ำกั้นทางเข้าลึกประมาณ 5 เมตรแต่มีความกว้างจากปากถ้ำไปยังอีกฟากหนึ่งของผนังโพลงประมาณ 15 เมตรโดยคนท้องถิ่นและนักสำรวจระบุว่าเป็นเนินหินที่สามารถใช้อาศัยอยู่ได้หากน้ำขึ้นด้วยอย่างไรก็ตามนักประดาน้ำท้องถิ่นไม่สามารถดำผ่านกระแสน้ำที่เชี่ยวขุ่นและมีโขดหินขวางกั้นเป็นจำนวนมากไปได้ ทำให้ชุดช่วยเหลือที่จังหวัดจัดไว้ 8 ชุดยังไม่สามารถผ่านไปยังผนังโพลงถ้ำอีกฝั่งหนึ่งได้

จึงยังไม่พบตัวกลุ่มเด็กๆแต่เจ้าหน้าที่ก็ได้มีการติดกระแสไฟฟ้าและจัดระบบการสื่อสารให้สามารถติดต่อกันไปได้ตลอดแนวรวมทั้งเตรียมอาหารและน้ำดื่มให้ชุดค้นหาเพื่อนำติดตัวไปช่วยเหลือกรณีพบเจอและจัดหน่วยแพทย์พยาบาลเอาไว้รองรับอีกด้วย

ล่าสุด น.อ.อนันต์ได้นำกำลังพลไปถึงบริเวณถ้ำหลวงแล้วโดยนายสมฤทธิ์ สวามิภักดิ์ ปลัดจังหวัดเชียงราย น.อ.วุฒิชัย ภู่เจริญยศ ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบตามลำแม่น้ำโขง(นรข.)เขตเชียงรายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปสถานการณ์ให้หน่วยซีลได้รับทราบก่อนปฏิบัติการโดยหน่วยซีลจะแบ่งกำลังพล 18 นายออกเป็นชุดๆละประมาณ 4 นายพร้อมอุปกรณ์การช่วยเหลือถังออกซิเจนและอื่นๆครบครันแล้วทยอยเข้าไปภายในถ้ำท่ามกลางการให้กำลังใจจากหน่วยงานต่างๆพ่อแม่ผู้ปกครองและญาติของเด็กๆที่ปักหลักรอกันอยู่ที่หน้าปากถ้ำขณะที่หน่วยสนับสนุนจากจังหวัดยังคงวางกำลังพร้อมสนับสนุนเช่นเดิม

น.อ.อนันต์กล่าวว่าจากการรับทราบข้อมูลจากผู้ที่เคยเข้าไปสำรวจและคนท้องถิ่นทราบว่าภายในจุดโพลงที่คาดว่าเด็กๆจะติดอยู่เป็นแอ่งน้ำที่มีช่องทางเข้าไม่กว้างมากนักและมีสิ่งกีดขวางมากดังนั้นแนวทางปฏิบัติจึงได้ส่งส่วนล่วงหน้าเข้าไปสำรวจก่อนแล้วจากนั้นได้จัดชุดปฏิบัติการชุดละ 4 นายทยอยเข้าไปเพื่อไม่ให้แต่ละชุดทำงานตรากตรำจนเกินไป น.อ.อนันต์กล่าวต่อว่าจากการสอบถามคนท้องถิ่นทราบว่าถ้ำหลวงไม่ใช่ถ้ำทางตันแต่มีช่องทางไปได้หลายทางจึงต้องหาช่องทางที่จะเล็ดลอดไปถึงปลายทางให้ได้ซึ่งก็เชื่อว่าไม่เกินขีดความารถของกำลังพลแน่นอนอย่างไรก็ตามอุปสรรคที่พบคือน้ำขุ่นและดำน้ำทำให้มองสิ่งใดไม่เห็นจึงมีลักษณะเหมือนหลับตาแล้วหาสิ่งของแต่เจ้าหน้าที่ก็จะปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันต่อไป

รายงานเพิ่มเติมว่าเพจเฟซบุ๊กชื่อ“สถานีตำรวจภูธรแม่สาย”ได้รายงานความคืบหน้าว่าเมื่อเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ดำน้ำได้ใช้พลั่วขุดหาช่องทางภายในถ้ำแล้วต่อมาเวลาประมาณ 08.30 น.ชุดดำน้ำได้เจาะทะลุอุโมงค์อีกฝั่งแล้วแต่ยังไม่พบเด็กและผู้ฝึกสอนกลุ่มดังกล่าวแต่อย่างใด เวลา 10.45 น. ชุดค้นหาพบร่องรอยผู้สูญหาย แต่ยังไม่พบตัว เวลา 12.00 น. สถานการณ์รอฟังจาก กองอำนวยร่วมเท่านั้น และห้ามผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าถ้ำหลวงโดยเด็ดขาด เวลา 13.20 น. ชุดประดาน้ำ 5 นาย ชุดแรกถอดตัว อีก 5 นายปฏิบัติหน้าที่ต่อ