ตำรวจไทย และ ตำรวจจีน ร่วมจับกุมผู้ต้องหาคดีคดีพนันออนไลน์ และ คดีคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และ พื้นที่ใกล้เคียง ได้ผู้ต้องหารวมกว่า 34 คน มูลค่าของกลางกว่า 50 ล้านบาท
คอมพิวเตอร์ 56 เครื่อง /โทรศัพท์มือถือ /ซิมโทรศัพท์ /นาฬิกา/ และ โฉนดที่ดิน รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท เป็นของกลางที่ตำรวจสามารถยึดได้จากผู้ต้องหา 34 คนในคดีพนันออนไลน์ และ คดีคอลเซ็นเตอร์
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า คดีคอลเซ็นเตอร์ ตำรวจไทยได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างประเทศ หลังสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้ทราบข่าวจากทางการจีนว่ามี กลุ่มชาวจีนไม่น้อยกว่า 20 คน กระทำความผิดเกี่ยวกับคดีคอลเซ็นเตอร์ภายในประเทศไทย จึงขอความร่วมมือศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทั่งสามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจำนวนทั้งหมดได้ 6 จุด เป็นชาวจีน 17 คน / ชาวเมียนมาร์ 1 คน /และ ชาววานูอาตู 1 คน ในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง/ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยเกินกำหนด/และ เพิกถอนวีซ่า
สำหรับแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ตั้งฐานอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย เนื่องจากภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ มีความเจริญ และ มีเทคโนโลยีเข้าถึงง่ายสะดวกต่อการติดต่อสื่อสาร โดยพฤติการณ์ของแก๊งนี้ได้ทำการตั้งตัวเป็นบริษัทการเงินปล่อยเงินกู้โดยโฆษณาผ่านทาง วีแชท ทำให้คนจีนทั่วไปทราบใครหลงเชื่อจะติดต่อขอเงินกู้ซึ่งต้องมีวงเงินเครดิตก่อน และ ดำเนินการต่างๆโดยจะให้โอนเงินเข้ามาแล้วถอนเงินและปิด วีแชท หนีทันที ทราบรายละเอียดอีกว่ามีผู้เสียหายหลายรายที่อยู่ในจีนฆ่าตัวตายเพราะถูกแก๊งนี้หลอกหลวงซึ่งมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ตำรวจยังได้จับกุมผู้ต้องหาในคดีพนันออนไลน์ตำรวจได้เข้าจับกุมผู้ต้องได้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และ พัทยา รวมทั้งหมด 10 จุด เป็นคนจีน 9 คน คนพม่า 3 คน และ คนไร้สัญชาติ 3 คน โดนจับกุมในข้อหา ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ชาวต่างชาติที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด
นายเอนก อยู่ยืน ผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบตลาดทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หนือ กลต. เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ร่วมมือกับตำรวจป้องปรามการกระทำผิดลักษณะคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจับครั้งนี้ พบมีลักษณะการปั่นหุ้นในประเทศจีนด้วย จึงต้องตรวจสอบว่า เข้าข่ายการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศไทยหรือไม่ พร้อมหาร่วมกับทางการจีน ว่าจะสามารถดำเนินการในข้อหาใดได้บ้าง
Leave a Reply