ปทุมธานี อดีตนายก อบต.คลองหกหันมายึดอาชีพเกษตรกรเลี้ยงปลา

ปทุมธานี
อดีตนายก อบต.คลองหกหันมายึดอาชีพเกษตรกรเลี้ยงปลา
ดร. นายนำศักดิ์ อุทัยศรีสมอดีตนายก อบต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีเปิดเผยว่าดังเดิมพื้นที่ตรงนี้ตนเองนั้นทำนามาก่อนได้ผลผลิตดีมากแต่ราคาข้าวไม่ดีตกอยู่ที่เกวียนละ5-6,000 บาทไม่คุ้มค่ากับต้นทุนการผลิตที่มีราคาสูงคือว่าทำแล้วขาดทุนจึงได้เปลี่ยนอาชีพมาเลี้ยงปลาเบญจพรรณโดยมีทั้งปลาสวาย ปลานิล ปลาจาระเม็ด ปลาดุก ปลายี่สุกและปลาจีนซึ่งผสมผสานในบ่อเดียวกันเป็นเวลากว่าสามสิบปีมาแล้วประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมากและการเลี้ยงนั้นใช้เวลาประมาณ 8-10 เดือนก็จับออกสู่ท้องตลาดได้โดยทยอยเลี้ยงในบ่ออนุบาลพื้นที่ 700 ไร่ โดยได้แบ่งเป็นล็อกๆคือเมื่อจับปลาใหญ่แล้วเราก็นำปลาเล็กลงมาถ่ายลงบ่อใหญ่ซึ่งการเลี้ยงปลานั้นจะเลี้ยงเป็นรุ่นๆไม่ขาดตอนในการออกสู่ท้องตลาดได้ตลอดปีและจะมีปลาออกจำหน่ายทุก 3 เดือนแต่ละครั้งประมาณ 100 กว่าตันผลผลิต 5-7 ตันต่อไร่ตลาดที่รองรับก็คือแพปลาคลอง 4 และตลาดไทยทางบ่อของตนเองเวลาจับนั้นต้องตกลงราคากันก่อนป้องกันพ่อค้าคนกลางกดราคาซึ่งต้องมาตีราคาที่หน้าบ่อในเรื่องของไซต์และขนาดของปลาจะได้ไม่เสียเปรียบโดยบอกกับกลุ่มชาวบ้านที่เลี้ยงปลาถ้าเราเลี้ยงต้องตลาดที่ดีมารองรับเพราะการเลี้ยงปลาต้องใช้เวลานานแต่พ่อค้าคนกลางมาจับเพียงไม่กี่ชั่วโมงได้กำไรมากมายกว่าที่เราเลี้ยงส่วนครัวของโลกก็คืออาหารคือข้าวกับปลานั้นเป็นของคู่กันมา
ดร.นำศักดิ์ฯยังกล่าวต่ออีกในเรื่องของการตลาดช่วงนี้ราคาในประเทศนั้นไม่คอยดีในเรื่องของเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ตกอยู่ที่ กก.ละ18-19 บาทส่วนบ่อของตนเองนั้นตอนนี้ได้อาศัยแม่ค้าจากทางแม่สอดจังหวัดตากมารับซื้อที่หน้าบ่อตกกก.ละ20-21บาทประมาณร้อยกว่าตันและส่งเข้าไปขายทางพม่าโดยข้ามไปทางแม่น้ำเมยและส่วนจะจับปลาตามไซต์คือ 4-5 กิโลกรัมนอกจากนี้ทางบ่อของตนเองนั้นกรมประมงได้ตั้งให้เป็นศูนย์ถ่ายทอดการเลี้ยงปลาให้กับชาวบ้านพี่น้องเกษตรกรได้มาศึกษาดูงานโดยเป็นปราชญ์ชาวบ้านถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆให้กับเกษตรกรที่เลี้ยงปลาจนปัจจุบันนี้ขยายไปเป็นหมื่น ๆไร่เพราะอาชีพเลี้ยงปลาเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ได้ดีส่วนบ่อของตนนั้นอาหารจะเก็บมาจากตามโรงแรมเป็นอาหารที่ดีไม่มีเน่าเสียโดยเลี้ยงตกเฉลี่ยวันละ 40-50 ถังตกประมาณ 120 ลิตรเนื่องจากปลานั้นกินหมดน้ำจะไม่เสียและไม่เกิดโรคระบาดในตัวปลาได้ต่อไป