“อดีต.ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์” ได้รับการร้องเรียนจาก “อดีตตุลาการอาวุโส” กรณีเรื่อง “สำนักงานศาลยุติธรรม” จัด “งบประมาณ” ก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการตุลาการ (ธนบุรี) จำนวน 100 หน่วยแทนบ้านพักตุลาการศาลอาญาธนบุรี นั้น..

“อดีต.ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์” ได้รับการร้องเรียนจาก “อดีตตุลาการอาวุโส”
กรณีเรื่อง “สำนักงานศาลยุติธรรม” จัด “งบประมาณ” ก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการตุลาการ (ธนบุรี) จำนวน 100 หน่วยแทนบ้านพักตุลาการศาลอาญาธนบุรี นั้น..

วันที่ 3 กันยายน 2561 นายวัชระ เพชรทอง อดีต.ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าได้รับการร้องเรียนจากนายชัยฤทธิ์ ลีลาเกรียง ศักดิ์และนายประดิษฐ์ สิงหทัศน์ อดีตตุลา การอาวุโส กรณีสำนักงานศาลยุติธรรมจัดงบประมาณก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยข้าราช การตุลาการ(ธนบุรี) จำนวน 100 หน่วย แทนบ้านพักตุลาการศาลอาญาธนบุรี ซึ่งเป็นอาคารทาวเฮ้าส์ 3 ชั้นจำนวน 100 ห้อง ซึ่งยังอยู่ในสภาพดี สามารถพักอาศัยได้แต่สำนักงานศาลยุติธรรมไม่รับฟังเสียงทักท้วงของคณะผู้พิพากษา มีการจัดของบประมาณจากรัฐบาลประมาณ 500 ล้านมาสร้างอาคารชุด(คอนโดมีเนียม) แทนในพื้นที่เดิม และ ขณะนี้มีผู้อ้างว่ารับเหมาช่วงรีบเข้าไปรื้อถอนอาคารบ้านพักตุลาการศาลอาญาธนบุรี ซึ่งยังมีสภาพดี ประมาณ 7-8 หลังแล้ว เพื่อนำไม้เก่าอย่างดีมีราคาแพงออกมา เช่นบานประตูไม้สัก ไม้แดง เป็นต้น

ผม นายวัชระ เพชรทอง “อดีต.ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์” ในฐานะอดีตโฆษกคณะกรรมาธิการงบประมาณ เมื่อได้รับการร้องเรียนก็ไปดูพื้นที่จริงซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างของศาลอาญาธนบุรี พบเห็นคนงานกำลังรีบรื้อทุบทำลายบ้านพักศาล ผมในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีเห็นว่าในกรณีสำนักงานศาลยุติธรรมต้องตรวจสอบว่าผู้รับเหมาช่วงที่เข้าไปรื้อถอนนั้น ปฏิบัติถูกกฎหมายหรือไม่ มีสัญญารื้อถอนหรือไม่ และควรระงับการรื้อถอนไว้ก่อนและควรรับฟังเหตุผลการทักท้วงของคณะตุลาการที่คัดค้าน เพราะมีการยื่นจดหมายส่งตรงถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 แล้ว

ซึ่งปัจจุบันปัญหาของข้าราชการตุลาการ มีการขาดแคลนบ้านพักอาศัยเป็นจำนวนมาก ในเมื่อบ้านพักตุลาการศาลอาญาธนบุรียังคงใช้การได้ดีอยู่ก็ไม่ควรทุบทำลาย สามารถพักอาศัยอีกได้นานนับสิบปี หากสำนักงานศาลยุติธรรมจัดสรรงบประมาณมาซ่อมบำรุงก็อาจใช้การต่อไปได้ถึง 20 ปีซึ่งเป็นการช่วยประหยัดงบประมาณของชาติ

ส่วนงบประมาณที่ได้รับจัดสรรมาแล้วเพื่อสร้างอาคารชุด 5 ชั้น จำนวน 100 ห้องก็ควรพิจารณาย้ายสถานที่ก่อสร้างไปที่อื่น เช่นในเขตบางขุนเทียนหรือบางบอนที่อยู่ใกล้กันซึ่งมีที่ดินราชพัสดุที่อยู่ในความดูแลของกรมธนารักษ์เป็นจำนวนมาก ยิ่งในยุคที่พลเอกประยุทธ์มีอำนาจเต็มตาม ม.44 ไม่ใช่เรื่องยากในการย้ายสถานที่สร้างแต่ประการใด

ปัญหาการก่อสร้างบ้านพักตุลาการเคยเกิดที่หมู่บ้านป่าแหว่ง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเชิงดอยสุเทพ ที่ไม่ฟังเสียงทักท้วงของชาวบ้าน แล้วปัญหาเดียวกันก็มาเกิดขึ้นที่บ้านพักตุลาการศาลอาญาธนบุรี คราวนี้คณะผู้พิพากษาคัดค้านเอง แต่สำนักงานศาลยุติธรรมไม่รับฟังยังคงเดินหน้าสร้างคอนโดมิเนียมสูง 5 ชั้นในพื้นที่สีเขียวของกรุงเทพมหานคร ตุลาการอาวุโสส่งจดหมายคัดค้านถึงพลเอกประยุทธ์แล้วก็เงียบ ไม่รู้จดหมายถึงนายกรัฐมนตรีไหม

ผมจึงขอเสนอแนะให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับฟังเสียงทักท้วงของตุลาการอาวุโสและคณะผู้พิพากษาที่คัดค้าน ควรจะย้ายงบประมาณไปก่อสร้างที่อื่นซึ่งสามารถทำได้ ดีกว่าดันทุรังก่อสร้างในพื้นที่ที่มีบ้านพักตุลาการที่ยังคงใช้การได้ดีอยู่และขัดแย้งกับข้าราชการด้วยกันเอง อีกทั้งเป็นการประหยัดงบประมาณของชาติและได้บ้านพักตุลาการเพิ่มขึ้นมาอีก 100 หลังรวมได้ถึง 200 หลังซึ่งจะแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่พักอาศัยของผู้พิพากษาได้ในขณะเดียวกัน ซึ่งทุกฝ่ายก็ต่างหวังดีทั้งสิ้น แต่นับเป็นเรื่องที่แปลกมากที่โครงการใหญ่ๆมูลค่านับร้อยล้านนี้ ไม่มีการติดป้ายสัญญาจัดซื้อจัดจ้างไว้และมีคนงานรีบเร่งรื้อทุบทำลายขณะที่ยังมีผู้อาศัยอยู่ด้วยซ้ำ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ผมจะยื่นหนังสือให้ระงับการรื้อถอนบ้านพักตุลาการศาลอาญาธนบุรี และให้พิจารณาย้ายสถานที่ก่อสร้างตามคำเรียกร้องของคณะตุลาการต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 กันยายน 2561 เวลา 10.00 น.
พร้อมแสดงภาพและหลักฐานให้นายกรัฐมนตรีได้เห็นอย่างแจ่มชัด.

ผ่านเลนส์ 005~รายงาน

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link