ศรีวราห์ สั่งกองปราบคลี่คลายคดี สาวอำนาจเจริญตายอย่างปริศนาในรถ หลังครอบครัวเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พา นางสาวบัวทอง โสภาลุน อายุ 51 ปี มารดาพร้อมญาติพี่น้องของ นางสาวดวงจันทร์ ทวีพันธ์ อายุ 33 ปี ผู้ปล่อยเงินกู้ ที่เสียชีวิตปริศนาในสภาพถุงพลาสติกคลุมหัวจนขาดอากาศหายใจอยู่ภายในรถเก๋งตัวเอง เหตุเกิดบนถนนทางไปที่นา บ้านน้ำท่วม อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2561 เดินทางเข้าพบ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ช่วยตั้งชุดสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของบุตรสาว เนื่องจากพบพิรุจทางคดีหลายอย่าง และคิดว่าไม่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย ตามที่สภ.ลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญระบุ แต่น่าจะเป็นการถูกฆาตกรรม
พลตำรวจตรีถวาย บูรณรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ยืนยันว่า จากการตรวจสอบดีเอ็นเอบนรถและถุงพลาสติก ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่นปรากฎ พบเพียงดีเอ็นเอของบุคคลในครอบครัวและผู้เสียชีวิตเท่านั้น ซึ่งขณะนี้รอผลการตรวจลายนิ้วมือแฝงอยู่ และบริเวณที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาโล่ง จึงไม่มีกล้องวงจรปิด แต่มีการไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ออกจากบ้าน พบว่าบริเวณที่ใกล้ที่สุด คือ ปั๊มน้ำมัน กับหน้าวัด แต่ไม่พบความผิดปกติใดๆ
จากการตรวจสอบไม่พยานหลักฐาน ที่ระบุว่ามีผู้อื่นทำให้เสียชีวิต จึงสรุปว่าเป็นการตายแบบผิดธรรมชาติ หรือ การฆ่าตัวตาย พร้อมยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินคดีเรื่องทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตที่สูญหาย ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นพบว่ามีสมุดบันทึกรายการลูกหนี้ และสมุดบัญชีเงินฝากหายไป
ด้านพันตำรวจตรีณัฐวุฒิ โยธินอุปไมย นายแพทย์ (สบ 1) กลุ่มงานนิติพยาธิ แพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ที่เป็นผู้ตรวจชันสูตรพลิกศพ ครั้งที่ 2 ยืนยันไม่ได้ว่านางสาวดวงจันทร์ฆ่าตัวตายหรือไม่ ตรวจสอบได้แค่เสียชีวิตจากระบบหายใจล้มเหลว ส่วนยาที่นางสาวดวงจันทร์กิน ไม่เกี่ยวข้องกับการขาดอากาศหายใจ สอดคล้องกับโรงพยาบาลที่แรกที่ตรวจชันสูตรพลิกศพ ว่าระบบหายใจล้อมเหลว ส่วนแผลใต้ตา ต้องสอบถามแพทย์คนแรกที่ตรวจ เพราะกว่าศพจะถึงตนเอง ก็เปลี่ยนสภาพไปมากแล้ว
พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยืนยันจะดูแลครอบครัวให้ได้รับความปลอดภัย สั่งให้กองปราบปรามดำเนินการต่อตามกระบวนการ โดยมีประเด็นจะต้องสืบต่อ คือ ทรัพย์สินของนางสาวดวงจันทร์ที่สูญหาย ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ และประเด็นที่แม่ของผู้เสียชีวิตถูกข่มขู่ ซึ่งจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลผู้เสียหาย และสอบสวนควบคู่ไปด้วย ส่วนหลักฐานที่เป็นคลิปเสียงสนทนา ก็จะตั้งกรรมการสอบเช่นกัน และกรณีที่แพทย์ยังไม่ได้ระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่ ซึ่งจะต้องทำประเด็นดังกล่าวให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตหายสงสัย และจะไม่เร่งรัดการดำเนินคดี เพราะคดีนี้ผ่านมานานพอสมควร ต้องให้เวลาพนักงานสืบสวนสอบสวนทำงานอย่างรอบคอบ
นางสาวบัวทอง ยืนยันว่า ไม่พบเค้าลางความน่าสงสัยว่าลูกสาวตัวเองจะฆ่าตัวตาย เพราะลูกสาวไม่มีนิสัยเก็บตัว และยังบอกอีกว่าจะหันมาทำอาชีพเกษตรกรรม ขณะเดียวกันทราบมาว่าลูกสาวได้ไปกู้ยืมเงินจากเพื่อน เพื่อมาปล่อยกู้ต่อ ซึ่งเป็นคดีที่ฟ้องร้องกันอยู่ในชั้นศาล
ดานุ ยศกุล / ทีมงานเรื่องจริงผ่านเลนส์ รายงาน
Leave a Reply