“ แถลงข่าวจับกุม คนร้ายหลอกอ้างว่า ให้สินเชื่อเพื่อการลงทุน ไม่ใช้คนค้ำประกัน ติดแบล๊คลิสท์ก็สามารถกู้ได้ การันตรีผ่านอนุมัติ 100% ร้องเรียนผ่าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. รรท.ผบช.สตม. ”

“ แถลงข่าวจับกุม คนร้ายหลอกอ้างว่า ให้สินเชื่อเพื่อการลงทุน ไม่ใช้คนค้ำประกัน ติดแบล๊คลิสท์ก็สามารถกู้ได้ การันตรีผ่านอนุมัติ 100% ร้องเรียนผ่าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. รรท.ผบช.สตม. ”
ตามนโยบายของรัฐบาล มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดและส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้การปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าวเกิดความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) อำนวยการโดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. รรท.ผบช.สตม. , พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 รรท.ผบก.ตม.3 ,พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. รรท.ผบก.จร. , พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 รรท.ผบก.สส.สตม. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์ฯ

ด้วยมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากการถูกคนร้ายซึ่งมีพฤติกรรมหลอกลวงเงินผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก โดยใช้การการโพสท์ข้อความทางเฟซบุ๊กโฆษณาว่าสามารถให้สินเชื่อเพื่อการลงทุน รับเงินภายในชั่วโมงครึ่ง โดยไม่ใช้คนค้ำประกัน และผู้ที่ติดแบ๊คลิสท์ก็สามารถกู้เงินได้ การันตรีผลผ่านอนุมัติ 100% ซึ่งหากมีผู้ที่สนใจในการขอสินเชื่อดังกล่าว และทำการติดต่อสอบถามไปยังคนร้ายแล้วนั้น ก็จะทำการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อของธนาคารต่างๆ เพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จากนั้นจะหลอกให้ผู้ที่หลงเชื่อและต้องการขอสินเชื่อนั้นทำการโอนเงินค่าดำเนินการเป็นจำนวนเงิน 3,500 บาท จนถึง 7% ของยอดเงินที่ต้องการจะขอสินเชื่อ ซึ่งหลังจากที่เหยื่อหลงเชื่อและทำการโอนเงินค่าดำเนินการดังกล่าวไปให้แล้วนั้น ก็จะทำการบล๊อคช่องทางการติดต่อของเหยื่อรายดังกล่าว และนำเงินดังกล่าวหลบหนีไป รวมความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท

ต่อมาหลังจากที่ทราบเรื่องในกรณีดังกล่าวแล้วนั้น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. รรท.ผบช.สตม. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ชุดปฏิบัติการที่ 10 นำโดย พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง ทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ซึ่งจาการสืบสวนทราบว่า ผู้ที่มีพฤติการณ์กระทำความผิดในกรณีดังกล่าวข้างต้นคือ นายชัยณรค์ นาคศรีสุข อายุ 38 ปี และยังพบว่า นายชัยณรงค์ฯ นั้นเคยก่อเหตุกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมาแล้วอีกเป็นจำนวนมาก และเป็นบุคคลที่มีหมายจับอีกจำนวน 7 หมายจับ ดังนี้
1. หมายจับศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ข้อหา ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ
2. หมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ข้อหา ฉ้อโกง
3. หมายจับศาลจังหวัดนาทวี ข้อหา ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ
4. หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ข้อหา ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ
5. หมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ข้อหา ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ
6. หมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ข้อหา ฉ้อโกง
7. หมายจับศาลจังหวัดพัทยา ข้อหา ฉ้อโกงประชาชน , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ

จากนั้นเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสเทศ ชุดปฏิบัติการที่ 10 ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ร่วมกันจับกุม นายชัยณรงค์ นาคศรีสุข อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนขยายผลจึงทำให้ทราบว่ายังมีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและได้รับผลประโยชน์จากการหลอกลวงเงินร่วมกับนายชัยณรงค์ฯซึ่งหลบหนีลอยนวลอยู่ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 10 จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อนำตัวผู้ร่วมกระทำความผิดดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุปฏิบัติการที่ 10 ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาที่อยู่ในขบวนการหลอกลวงเงินร่วมกับนายชัยณรงค์ฯอีกจำนวน 2 คน ดังนี้
1. นายณรงค์ชัย สอนเอี่ยม อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” ซึ่งทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารเพื่อให้นำไปใช้สำหรับการหลอกลวงและรับโอนเงินจากเหยื่อ และยังเป็นผู้ทำการถอนเงินที่ได้จากการหลอกลวง
2. น.ส.ศศิธร นาคทองสุข อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารใช้รับโอนเงินจากเหยื่อที่ถูกหลอกลวง
จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์ประชาชนที่ต้องการใช้เงินในการลงทุนประกอบอาชีพ หรือดำเนินการในเรื่องต่างๆ ขอให้กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินของรัฐหรือที่รัฐบาลรับรองที่น่าเชื่อถือ อย่าไปหลงเชื่อในการกู้ยืมเงินจากพวกมิจฉาชีพที่ใช้ช่องทางโซเชียลแล้วหลอกให้โอนเงินค่าดำเนินการก่อนกู้ยืมเงิน ท่านอาจถูกหลอกไม่ได้กู้ยืมเงินและต้องเสียเงินไป

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link