พ.อ.ธัญพิสิษฐ์ โพธิ์นอก แนะนำสถานพักฟื้นและพักผ่อน กองทัพบก (บางปู) หรือ สถานตากอากาศบางปู จ.สมุทรปราการ

วันที่27ตุลาคม2561.พ.อ.ธัญพิสิษฐ์ โพธิ์นอก แนะนำสถานพักฟื้นและพักผ่อน กองทัพบก (บางปู) หรือ สถานตากอากาศบางปู จ.สมุทรปราการสถานตากอากาศบางปูเป็นสถานที่ตากอากาศที่ประชาชนรู้จักกันดี และที่แห่งนี้คือ กินปู, ดูนก, เต้นรำ, ย่ำป่าชายเลน และรีสรอท์สวยงาม ท่านใดที่ยังไม่เคยมาก็ขอเชิญชวนให้มาท่านจะเจอความงามที่เป็นธรรมชาติและรสชาติอาหารที่อร่อยซึ่งที่นี่เป็นคนปรุงเองรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ จึงขอเชิญชวนลองมาลิ้มชิมรสกันดูนะครับ ดูนกก็คือปัจจุบันเป็นช่วงไฮซีซั้นเริ่มตั่งแต่พฤจิกายนถึงเมษายน นกที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ก็เริ่มมากันตอนี้ก็มีมาณ700ตัว ก็คือนกนางนวลซึ่งซึ่งพันธุ์นกประจำถิ่นและนกอพยพ ที่พบในพื้นที่ฯ มีจำนวน 240 ชนิด ที่พบมากได้แก่ นกนางนวลธรรมดา, นกปากแอ่นหางดำ, นกกาบบัว, นกทะเลขาแดง, นกยางโทน, นกตีนเทียน เป็นต้น โดยนกนางนวล ถือเป็นสัญลักษณ์ของบางปู ซึ่งมีถิ่นเกิดอยู่ในเขตเอเชียตอนกลางด้านทะเลทรายโกเบ, ทิเบต, ตอนใต้ของประเทศจีน จนถึงมองโกเลีย โดยเริ่มพบเห็นได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงปลายเดือนเมษายนของทุกปี จะมาเรื่อยๆมากขึ้นจะมากที่สุดในเดือนธันวาคมประมาณหมื่นกว่าตัว กิจกรรมที่นี่จะมีก็คือกิจลีลาศเพื่อสุขภาพเราจะมีทุกวันเสาร์ในช่วงเวลา16.00-20.00น.ในพื้นที่ของป่าชายเลนก็คือพื้นที่มีสวนธรรมชาติที่เสามารถชมความงามป่าชายเลนได้ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน หากท่านอยากจะมาชมหรือกิจกรรมปลูกป่าชายเลนดังนั้นก่อนท่านมาให้โทรมาติดต่อสอบถามได้ว่าสามารถปลูกได้ช่วงไหน ที่นี่จะมีที่พักซึ่งเป็นทั้งโรงแรม ,บังกะโร, ให้ท่านได้พักผ่อนหากท่านมานั่งทานอาหารอร่อยๆหรือมาแล้วค่ำไปหน่อยไม่มีธุระอะไรสามารถนอนพักในสถานที่แห่งนี้ได้ สถานที่มีทั้งรัานอาหารสวัสดิการฯ เปิดบริการ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้บริการได้ทุกท่านทุกนายครับ*ประวัติความเป็นมาคร่าวๆเมื่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม ผู้ดำริก่อตั้งสถานตากอากาศบางปูมีหน่วยงานต่างๆ รับผิดชอบผลัดเปลี่ยนกันไปหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์, องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก,โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เป็นต้น ปัจจุบัน กรมพลาธิการทหารบก เป็นหน่วยรับผิดชอบ ปัจจุบันสถานตากอากาศชายทะเลแม้จะดูว่ากิจการก้าวหน้าไปด้วยดี แต่ก็มีเหตุผลให้สถานตากอากาศชายทะเลบางปูต้องหยุดกิจการลงไปคือเหตุการณ์ยกพลขึ้นบกของทหารญี่ปุ่นที่สถานตากอากาศชายทะเลบางปูส่วนสถานตากอากาศชายทะเลบางปู มีที่ตั้งริมทะเล ด้านหน้าติดถนนสุขุมวิท ด้านหลังติดอ่าวไทย บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 37 สภาพทางอุทกศาสตร์ของปากแม่น้ำเจ้าพระยา ร่องน้ำลึกปากแม่น้ำเจ้าพระยา มีระดับน้ำลึกประมาณ 6เมตร มีทุ่นไฟตั้งอยู่บริเวณปากร่องน้ำ ห่างจากตัวสมุทรปราการไปทางทิศใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร และมีประภาคารสันดอนตั้งอยู่ห่างจากตัวสมุทรปราการ ไปทางทิศใต้ตามลำน้ำเจ้าพระยาสถานตากอากาศบางปูให้บริการมานานกว่า 50 ปี สถาพอาคารร้านค้าและสะพานซึ่งเดิมเป็นไม้ ได้ชำรุดมากจนไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยได้ ใน พ.ศ. 2538 จึงปิดปรับปรุงชั่วคราว แต่ก็ยังคงให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม บ้านพักและสถานที่พักผ่อน เช่นเดิมการปรับปรุงอย่างสมบูรณ์ ทำให้สถานตากอากาศบางปูฟื้นฟูความรู้สึกเดิมๆได้อีกครั้ง มีเอกลักษณ์ที่สำคัญ คือ ประตูชัย สะพานสุขตา ศาลาสุขใจประตูชัย เป็นซุ้มประตู 3 ช่อง เป็นจุดเริ่มต้นของสะพานสุขตาประตูชัย,สะพานสุขตา, ศาลาสุขใจสะพานสุขตา เริ่มต่อจากประตูชัย เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ทอดตรงพาดสู่ทะเล ด้วยความยาว 359เมตร มีทางเท้าทั้ง 2ข้างทาง และมีลานกว้างบนทางเท้า เพื่อเป็นจุดชมวิว 6จุด รองรับนักท่องเที่ยว ชมนก ชมวิวได้นับพัน คนศาลาสุขใจ เป็นอาคารคอนกรีตถาวร อยู่ปลายสะพานสุขตา ยาวร่วม 100มตรภายในศาลาสุขใจได้เปิดบริการอาหาร เครื่องดื่ม มากกว่า 100โต๊ะ ด้วยบรรยากาศเลือกได้มีทั้งห้องอาหาร บรรยากาศลมทะเล, ห้องปรับอากาศ, ห้องประชุม, สัมมนา, จัดเลี้ยงสังสรรค์ และฟลอร์ลีลาศมาตรฐาน ในช่วงวันเสาร์ 16 นาฬิกาของทุกวันจะมีการลีลาศบริเวณด้านในที่จัดเตรียมไว้ให้ภายในสโมสรร้านค้าศาลาสุขใจ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา10:00น ถึง 20:00น.พร้อมหรือร่วมลีลาศเพื่อสุขภาพทุกวันเสาร์ และ มีพื้นที่เดินเล่นตากอากาศริมทะเล และสวนหย่อมสวยงามไว้บริการและขณะนี้สถานตากอากาศบางปู คำนึงถึงสุขภาพของประชาชนในวันนี้จึงเปิดพื้นที่ให้ออกกำลังกาย ได้แก่ จัดลานแอโรบิคด๊านซ์ ร่วมกับเทศบาลตำบลบางปูมีบริการทุกวัน จัดถนนภายในให้เป็นที่วิ่งออกกำลังกายมีผู้นิยมมาใช้บริการตั้งแต่ 04:00น ทุกวัน ตลอดจนสนามฟุตซอลมาตรฐาน บริการที่พักหลายรูปแบบ เช่น บังกะโลปรับอากาศ บังกะโลพัดลม และอาคารที่พักลักษณะโรงแรมรับประกันความปลอดภัย มีเวรยาม ตลอด 24 ชั่วโมงสำหรับพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กองสถานพักผ่อน กรมพลาธิการทหารบกโดย กรมพลาธิการทหารบก ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็น สถานพักฟื้นและพักผ่อนสำหรับกำลังพลที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติราชการสนาม รวมทั้งให้ประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าวด้วยส่วนพื้นที่อีกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันเดิมทีเป็นนากุ้ง แต่ถูกปล่อยให้รกร้างมานานนับ 10ปี กองทัพบกจึงมีแนวคิดในการจัดทำเป็นพื้นที่อนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี เมื่อปี 2546 ประกอบกับทางหน่วยงานอนุรักษ์ภาคเอกชน ได้แก่ กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (สำนักงานประเทศไทย) หรือ WWF. (ปัจจุบันมูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษา หรือ FEED รับช่วงดูแลต่อ) ก็มีแนวคิดที่จะจัดตั้งศูนย์ศึกษาธรรมชาติเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่บริเวณดัองกล่าวเช่นกัน ซึ่งจะเป็นการให้บริการด้านการศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนแก่กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และผู้ที่สนใจทั่วไปอีกด้วยเมื่อทั้ง๒แนวคิดมาพบกันจึงบรรลุข้อตกลงที่จะจัดทำโครงการอนุรักษ์ป่าชายเลนและจัดตั้งศูนย์ศึกษาธรรมชาติขึ้นใน พ.ศ. 2547 โดยทั้งกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (สำนักงานประเทศไทย) หรือ WWF. และกองทัพบก ได้ทำพิธีลงนามข้อตกลงร่วมโครงการกองทัพบกกับกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (สำนักงานประเทศไทย) ใน 20 สิงหาคม 2546โดยทั้ง 2ฝ่ายจะร่วมมือกันแสวงหาความร่วมมือและการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งถือได้ว่ากองทัพบกเป็นหนึ่งเสาหลักในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากป่าชายเลนผืนนี้ให้เกิดความยั่งยืนต่อไป…….เอวัชระ ทีมข่าวเรื่องจริงผ่านเลนส์รายงาน