สตม. จับกุมคนร้ายหญิงไทย(นกต่อ/CALL) หลอกลวงผู้เสียหาย ROMANCE SCAM
ตามนโยบายของรัฐบาลมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่กระทำความผิดและส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติการณ์ในการใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชนทั่วไป
และมีผู้หลงเชื่อ ทำให้สูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมากเพื่อให้การปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าว เกิดความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) อำนวยการโดย พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม., พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รรท.รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท.ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท.ผบก.จร.และเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์ ศปอส.ตร. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน
ศปอส.ตร. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันจับกุมตัว
1.นางสาวชญาดา เจริญพร อายุ 35 ปีอยู่บ้านเลขที่ 234 ม.7 ต.วังบัว อ.คลองขลุง จว.กำแพงเพชร โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าท้ังหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
จับกุมได้ที่บริเวณถนนสายเอเชียใต้สะพานต่างระดับ บางปะหันหมู่ 4 ตำบลขวัญเมือง อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ด้วยเจ้าหน้าที่สืบสวนชุด ศปอส.ตร. ได้ทำการสืบสวนขยายผลกลุ่ม ROMANCE SCAM และรวบรวมข้อมูลพบว่ามี
ผู้เสียหายหลายรายถูกหญิงชาวไทยที่ทำหน้าที่เป็นนกต่อ/CALL CENTER โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่บริษัท INTERNATIONAL
LOGISTIC CARGO จังหวัดภูเก็ต โทรศัพท์หลอกลวงให้ผู้เสียหาย จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้กบักลุ่มคนร้ายเครือข่าย
ROMANCE SCAM ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้วิเคราะห์ ข้อมูลจากกลุ่มผู้เสียหายรวบรวมพยานหลกัฐานที่ ได้จากการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา รวบรวมพยานหลักฐานจนน่าเชื่อว่าผู้ต้องหาคือ
นางสาวชญาดา เจริญพร จึงได้นำพยานหลักฐานที่ได้ขออนุมัติต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับที่472/2561 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2561 และสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวพร้อม ของกลางโทรศัพท์มือถือที่ใช้หลอกผู้เสียหายและรับส่งข้อมูลจากกลุ่มคนร้ายที่เป็น SCAMMER จำนวน 3 เครื่องพร้อมบัตรเอทีเอ็มจำนวน 6 ใบ ซึ่งผู้ต้องหารับว่าตนมีหน้าที่เป็นนกต่อ/CALL CENTER รับข้อมูลจากกลุ่ม SCAMMER ชาวต่างชาติ(ผิวสี)
โทรศัพท์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงิน ให้กับกลุ่มคนร้ายเครือข่าย ROMANCE SCAM ซึ่งหากสามารถหลอกลวงผู้เสียหายได้จะได้รับค่าตอบแทนจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนเงินที่หลอกลวงได้และรับว่าได้ร่วมกับกลุ่มชาวต่างชาติหลอกลวงผู้เสียหายมาเป็นระยะเวลา ประมาณ 8 เดือน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาได้ทำการหลอกลวงผู้เสียหายในเขตพื้นที่สภ.เมืองบุรีรัมย์ สภ.ลาดบัวหลวง (บก.ปอท. รับคำร้องทุกข์),สภ. ดําเนินสะดวก,สภ.เมืองร้อยเอ็ด และ สน.บางขุนเทียน รวมมูลค่าความเสียหาย1,001,000 บาท
ซึ่งจากการตรวจสอบพยานหลกัฐานที่ตรวจยึด ได้น่าจะมีผู้ต้องหาอีกหลายรายที่ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงโอนเงินให้กลุ่มเครือข่าย ROMANCE SCAM เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ศปอส.ตร. จะได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลจับกุมกลุ่มคนร้ายรายอื่นต่อไป และฝากประชาสัมพันธ์ให้สื่อมวลชนและประชาชนทราบ เพื่อป้องปรามไม่ให้คนไทยที่หลงผิด
ร่วมกับชาวต่างชาติหลอกลวงผู้เสียหายชาวไทย หากจังร่วมกระทำความผิดอยู่ก็จะถูกดำเนินการจับกุมทุกรายพร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายหากพบข้อมูลที่เกี่ยวข้องสงสัยว่าถูกเป็นเหยื่อของกลุ่มเครือข่าย ROMANCE SCAM ดังกล่าวให้แจ้งมาที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.)ได้ทันที
ขอบคุณข้อมูลข่าวสาร พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.
ทีมข่าวเรื่องจริงผานเลนส์รายงาน
Leave a Reply