ทลายนายทุนดอกเบี้ยโหดยึดทรัพย์218 ล้านบาท บิ๊กป้อมเตรียมคืนโฉนด 28 พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท. ผบช.สตม. ,พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงษ์ รรท.รองผบช.สตม. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท .ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท.ผบก.จร. พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิ รองผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย รองผกก.สน.ห้วยขวาง สนธิกำลัง พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รองผบช.ภ.4 พ.ต.อ.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ รรท.ผบก.สส.บช.ภ.4 พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.สภ.ภูผาม่าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.บ้านเป็ด พ.ต.ท.ธนารัตน์ มีทองหลาง รองผกก.สส.สภ.ชนบท สนธิกำลัง ศปอส.ตร. สภ.เมืองหนองบัวลำภู สภ.เมืองหนองคาย ลงพื้นที่ 20จุดในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดหนองคายและ จังหวัดขอนแก่น ตามยุทธการ ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองให้น่าอยู่ ทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าถูกนายทุนเงินกู้รายใหญ่ปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
โดยปฏิบัติการครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นจับกุมยึดอายัดทรัพย์ 11 จุด ในพื้นที่อำเภอเมืองหนองบัวลำภู 5จุด อำเภอศรีบุญเรือง 1 จุด ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ในเขตอำเภอเมืองหนองคาย1จุด และอำเภอท่าบ่อ 1จุด และในพื้นที่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นของนายทุน 7 ราย
นอกจากนี้กำลังอีกส่วนได้ไปตรวจค้นเพื่อหาพยานหลักฐานความเชื่อมโยงใน 9จุด ในจังหวัดหนองบัวลำภูและหนองคาย หลังได้เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับนายทุนเงินกู้นอกระบบกระทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน โดยตรวจค้นเอกสารทางธุรกรรมไปตรวจสอบ
โดยปฎิบัติการครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการตรวจค้นหาพยานหลักฐานเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู,จังหวัดหนองคายและอำเภอชุมแพจังหวัดขอนแก่น ซึ่งหลังจากการตรวจสอบพบความผิดจึงได้ทำการยึดอายัดทรัพย์บ้านจำนวน 8 หลัง อาคารพาณิชย์ 7 คูหา รถยนต์ 41 คัน และโรงน้ำแข็ง 1 หล้ง รวมทรัพย์สินกว่า 218 ล้านบาท อีกทั้งได้ตรวจยึดโฉนดที่ดินในพื้นที่จ.ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภูและขอนแก่น กว่า 706 ฉบับ มูลค่ากว่า 2740ล้านบาท
พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ประกอบไปด้วยนางตุ๊ ฐิติรัตน์สกุล, นายฉัตรแก้ว ตั้งภิรมย์ภักดี และ นางสาวทองใบ รักษาภักดี นายยงยุทธ ชาวะนะ, นายบุญส่ง ช่างสีดา, นางรัตติกร พิทักษ์วงษ์วัฒนะ, นายสมศักดิ์ พรหมเดเวช และนางนิตยรดี พงศจีรณพัต
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการปราบปรามในพื้นที่อีสานเหนือมาแล้ว ในอ.กระนวน จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี กาฬสินธุ์ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดเลย จังหวัดร้อยเอ็ด จ.หนองบัวลำภู จังหวัดหนองคาย และอ.ชุมแพ จังหวัดขอนแก่น
ทั้งนี้ในส่วนพฤติกรรมของกลุ่มนายทุนย้งคงเหมือนเดิมไม่ต่างจากพื้นที่อื่นๆในแถบอีสาน คือการให้ลูกหนี้เซ็นในกระดาษเปล่า ซึ่งหลังจากนี้จะขยายผลในสัปดาห์หน้าพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลหลังพบพฤติกรรมว่ามีกลุ่มนายทุนในลักษณะแก๊งหมวกกันน็อคเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจมีข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับปัญหาหนี้นอกระบบทางรัฐบาลได้ให้ความสำคัญเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของพี่น้องประชาชน โดยในวันที่ 28 พ.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำกับดูแลสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานมอบโฉนดคืนให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหนี้นอกระบบและนายทุนดอกเบี้ยโหด ที่จ.เลยต่อไป
Leave a Reply