ปราจีนบุรี ภาพดวงไฟลอยไปมาคาดว่าน่าจะเป็นกระสือ

ปราจีนบุรี ภาพดวงไฟลอยไปมาคาดว่าน่าจะเป็นกระสือ
ทั้งชาวบ้านและผู้สื่อข่าว ยังคงเฝ้าตามหากระสือหลังบ้านร้าง คืนนี้ทีมข่าวสามารถบันทึกภาพน่าสงสัยเป็นดวงไฟลอยไปมาแต่ยังไม่กล้าฟันธง ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนมาเพื่อขอพิสูจน์ แค่เจอแสงไฟพุ่งใส่ถึงกับหนีกระเจิง
แม้จะผ่านคืนที่สาม กรณีที่มียายวัย 86 ปี และชาวบ้านพบแสงประหลาดเป็นดวงไปกลมโตลอยไปมาบริเวณริมบ่อปลาหลังบ้านร้าง ที่ หมู่ 4 ต.ท่างาม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จนเป็นที่โจทย์กันว่าเป๋นกระสือออกหากิน จนทีมข่าวต้องเกาะติดตั้งแต่วันแรกและหนึ่งในทีมงานพบกับแสงประหลาดด้วยตาตัวเองถึงกับต้องรีบเข้ามานั่งในห้องโดยสารทั้งที่ขาไปขอยืนบนกระบะหลัง แต่ไม่สามารถบันทึกภาพดวงไฟดังกบ่าวไว้ได้เนื่องากเป้นช่วงสั่นๆและเร็วมาก แม้ว่าคืนที่สองจะพบแสงประหลาดใกล้เคียงจุดเดิมก็ยังพลาดที่จะบันทึกภาพไว้ได้ คืนที่สามจึงวางแผนตั้งกล้องในจุดเดิมแล้วอยู่ในความเงียบและมืดประกอบกับเป็นคืนวันพระทำให้ทีมงานมั่นใจ จนเวลาผ่านไปราว เที่ยงคืนครึ่ง ก็เห็นแสงสว่างเหนือผิวน้ำบ่อเลี้ยงปลาลอยไปมาจึงรีบบันทึกภาพได้เพียงไม่กี่วินาทีไว้ได้ก่อนที่ภาพนั้นก็จางหายไป หลังจากนั้นก็ไม่พบอีกเลย จากนั้นทีมงานได้นำภาพดังกล่าวมาวิเคราะห์ว่าแสงที่บันทึกไว้ได้เป็นแสงอะไร เงาสะท้อนจากน้ำหรือกระสือ หากเป็นเงาสะท้อนเงานั้นมาจากไหน ทั้งที่ทีมซุ่มอยู่ในที่มืดอยู่กันเพียงสามคน และหากจะบอกว่าเป็นกระสือก็ยังไม่มีใครกล้ายืนยันเพราะทุกคนไม่เคยเห็นว่ากระสือมีรูปร่าง หรือแสงอย่างไร
ขณะเดียวกันก่อนที่ทีมงานจะเข้าไปซุ่ม ได้พบกับคุรป้าสุลักขณา จันทรคุณ ประธานชุมชนท้ายวัดหลวง ที่วันนี้มาดูบ้านร้างที่รือกันว่ามีกระสือ พร้อมกับยืนยันว่าตัวเองนั้นเชื่อว่ากระสือนั้นมีจริง แต่จะอยู่ในบ้านร้างหรือไม่ไม่แน่ใจแต่บ้านหลังนี้ดูน่ากลัวมากๆ ในตอนหนึ่ง คุณป้าสุลักขณา เล่าว่า ขณะที่กำลังไปดูบ้านร้างมีแสงไฟพุ่งตรงเข้ามาหาถึงกับต้องพากันวิ่งหนีกระเจิงเพราะไม่รู้ว่าเป็นดวงไฟหรือแสงอะไร และยอมรับว่ากลัวมากๆ
ขณะที่วันนี้ก็ยังมีชาวบ้านจำนวนมากพากันมาคอยดูกราะสือที่มีการบอกเล่า โดยที่ทุกคนยังคงพุ่งเป้าหปที่บ้านร้างทั้งที่จุดที่มีคนพบกระสืออยู่นอกรั้วบ้านร้าง และอยู่ใกล้บ่อปลาหลังบ้านร้างหลังนี้