แขวงทางหลวงชนบทสงขลา เตรียมนำเครื่องจักรลงมาปรับเขื่อนอีกรอบเพื่อให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้คลื่นกัดเซาะชายฝั่งจนมาถึงถนน

นายช่าง แขวงทางหลวงชนบทสงขลา ซึ่งเป็นผู้ควบคุมงานทำแนวเขื่อนกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งแบบชั่วคราวลงพื้นที่ หลังคลื่นลมแรงพัดถล่มชายฝั่งจังหวัดสงขลาอย่างหนัก โดยเฉพาะแนวเขื่อนกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งแบบชั่วคราว เตรียมนำเครื่องจักรลงมาปรับเขื่อนอีกรอบเพื่อให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น สามารถต้านแรงกระแทกของคลื่นที่มีกำลังแรงได้ เพื่อไม่ให้คลื่นกัดเซาะชายฝั่งจนมาถึงถนนเลียบชายทะเลพังเสียหายอีก

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จังหวัดสงขลา ออกประกาศเตือนฉบับที่ 6 (146/2561) เรื่อง คลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ตอนบน ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลกระทบต่อ ลักษณะอากาศบริเวณอ่าวไทย ดังนี้ บริเวณอ่าวไทยตอนบน (จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร) ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง (จังหวัดสุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และ นราธิวาส) ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเล ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง ที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 15-16 ธันวาคม พ.ศ. 2561

วันนี้ 15 ธ.ค.61 ที่บริเวณถนนเลียบชายทะเล หมายเลข สข.2004 สายสงขลา-นาทับ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา นายนิสิต ช่วยคุ้มภัย นายช่างโยธาชำนาญงาน แขวงทางหลวงชนบทสงขลา ซึ่งเป็นผู้ควบคุมงานทำแนวเขื่อนกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งแบบชั่วคราว ได้ลงพื้นที่มาดูสถานการณ์คลื่นลมแรงที่พัดถล่มชายฝั่งจังหวัดสงขลาอย่างหนัก โดยเฉพาะแนวเขื่อนกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งแบบชั่วคราว ความยาว 70 เมตร ที่เพิ่งทำเสร็จเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561ที่ผ่านมา พร้อมกับการซ่อมถนนเลียบชายทะเลที่ถูกคลื่นกัดเซาะชายฝั่งพังเสียหาย จนเปิดใช้ได้ตามปรกติ

โดยในวันนี้คลื่นลมแรงยังพัดถล่มชายฝั่งจังหวัดสงขลาอย่างหนัก เป็นวันที่ 4 คลื่นลมแรงยังคงพัดกระหน่ำแนวเขื่อนกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งแบบชั่วคราวอยู่ตลอดเวลา ความแรงของคลื่นทะลักล้นข้ามเขื่อนกันคลื่นฯขึ้นมาบนถนนเลียบชายทะเล นายช่างโยธาชำนาญงาน แขวงทางหลวงชนบทสงขลา ได้บันทึกภาพเพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชาได้เห็นสภาพคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำแนวเขื่อนกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งแบบชั่วคราวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจจะกัดเซาะเข้ามาถึงถนนได้ เตรียมของบฉุกเฉินนำหินขนาดใหญ่เข้ามาเสริมคันเขื่อนให้สูงขึ้น พร้อมนำเครื่องจักรลงมาปรับเขื่อนอีกรอบเพื่อให้มีความแข็งแรงทนทานมากยิ่งขึ้น สามารถต้านแรงกระแทกของคลื่นที่มีกำลังแรงได้ เพื่อไม่ให้คลื่นกัดเซาะชายฝั่งจนมาถึงถนนเลียบชายทะเลพังเสียหายอีก

สำหรับแนวเขื่อนกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งแบบชั่วคราว ความยาว 70 เมตร สามารถป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณที่ซ่อมเสร็จแล้วได้หากคลื่นไม่รุนแรงมาก และเนื่องจากครั้งนี้คลื่นมีความรุนแรงมาก คลื่นสูง 2 – 3 เมตร และเป็นฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือของภาคใต้และคงจะต้องเจอกับสภาพคลื่นลมแรงกัดเซาะชายฝั่งตลอด 3 เดือน ของฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะนี้คลื่นลมแรงก็กำลังกัดเซาะบริเวณทิวสนที่เชื่อมต่อกับแนวเขื่อนกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งแบบชั่วคราว ส่งผลให้ต้นสนบริเวณทิวสนโค่นล้มระเนระนาดไปแล้วกว่า 30 ต้นทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กอย่างน่าเสียดาย และกว่าจะปลูกทดแทนให้ได้ขนาดนี้ต้องใช้ระยะเวลา 5 – 10 ปี

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ /หาดใหญ่ จ.สงขลา

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link