จับกุมผู้ร้ายข้ามแดนชาวตุรกี ข้อหา“มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย”

จับกุมผู้ร้ายข้ามแดนชาวตุรกี ข้อหา“มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย”

วันนี้ ( ๒๕ ธันวาคม 2561 ) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ศปชก.ตร. ) ได้ทำการรอรับตัวผู้ต้องหาตามหมายจับระหว่างพิจารณา ของศาลอาญา ที่ 985/2561 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 เพื่อนำตัวส่ง พนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ตามนโยบายรัฐบาลและการปฏิบัติการโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สอดคล้องกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจ เนื่องจากพรมแดนของประเทศมีการเปิดเสรีมากขึ้น และยังเป็นศูนย์กลางของเส้นทางการเดินทางไปยังประเทศอื่นๆหลายประเทศ ส่งผลให้ในปัจจุบันมีคนร้ายหรืออาชญากรแฝงตัวมาในรูปแบบนักท่องเที่ยว และใช้ประเทศไทยเป็นที่กบดาน หรือเป็นทางผ่าน ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นภัยต่อประเทศ จึงได้มีการจัดตั้ง ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ศปชก.ตร. ) ขึ้นมาทำหน้าที่สืบสวนและปราบปรามอย่างจริงจัง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้จัดตั้ง ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย (ศปชก.ตร..) โดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สะอาดพรรค ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ฯ ซึ่งได้ทำการสืบสวนปราบปรามจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง

่ต่อมา ศปชก.ตร. ได้มีการสืบสวนปราบปรามจับกุมกวาดล้างอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนและความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรชาวต่างชาติ ที่แฝงตัวเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ก่ออาชญากรรมส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความมั่นคงของประเทศ และให้ดำเนินการกวดขันจับกุมขบวนการบุคคลต่างด้าวที่มีพฤติการณ์เข้ามากระทำผิดเป็นภัยต่อสังคมไทย และมีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ตามมาตรา ๑๒ (๗) และเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 ได้มีหนังสือจาก สำนักงานอัยการสูงสุด ประสานมายัง ผบ.ตร. แจ้งว่า ทางการสาธารณรัฐตุรกีขอให้ทางการไทยส่งตัว นายมุสตาฟา ยึลมาช (Mr.Mustafa YilmazX) อายุ 46 ปี สัญชาติตุรกี หนังสือเดินทางตุรกีเลขที่ U03331944 ผู้ต้องหาในฐานความผิด มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ผบ.ตร.จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ศปชก.ตร. ดำเนินการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวมาดำเนินคดีให้ได้
จนเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ๒๕๖๑ เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ ศปชก.ตร. ชุดที่ 4 ร่วมกับ ตม.จว.ตราดได้ทำการสืบสวน จนสามารถจับกุมตัว นายมุสตาฟา ยึลมาช (Mr.Mustafa YilmazX) อายุ 46 ปี สัญชาติตุรกี หนังสือเดินทางตุรกีเลขที่ U03331944 ผู้ต้องหาตามหมายจับระหว่างพิจารณา ของศาลอาญาที่ ๙๘๕/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ โดยพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ในความผิดฐาน “ขอออกหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน” ( ฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ) ได้ที่บริเวณกลางซอยโรงแรมสวนสุภานัน หมู่ 4 ตำบลเกาะช้าง อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด และจะได้นำตัวส่งพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณข้อมูลข่าว
พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก
สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.
ทีมข่าวเรื่องจริงผานเลนส์รายงาน

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link