ราชบุรี  – ป้องกันลดอุบัติเหตุราชบุรี ชี้แจงการดำเนินงานและปิดศูนย์ฯ ช่วงเทศกาลปีใหม่

ราชบุรี – ป้องกันลดอุบัติเหตุราชบุรี ชี้แจงการดำเนินงานและปิดศูนย์ฯ ช่วงเทศกาลปีใหม่

วันนี้ 3 ม.ค.62) ที่ห้องประชุมหลวงยกกระบัตรชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดราชบุรี อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดราชบุรี และคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2562 ชี้แจงการดำเนินงาน และปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 โดยมี นายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย นางอังคณา ชิตะติตติ ผู้ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานแถลงผลการดำเนินงานศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 จังหวัดราชบุรี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.61 ถึงวันที่ 2 ม.ค.62 สถิติการเกิดอุบัติเหตุผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตโดยเกิดอุบัติเหตุจำนวน 51 ครั้ง ซึ่งลดลงจากปีที่แล้ว 31 ครั้ง แต่มีผู้เสียชีวิต 6 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บกรณี admit 49 ราย ลดลงจากปีที่แล้ว 34 ราย

โดยอำเภอที่เกิดอุบัติเหตุสูงที่สุด คือ อ.เมืองราชบุรี ซึ่งเกิดอุบัติเหตุจำนวน 12 ครั้ง ส่วนวันที่เกิดอุบัติเหตุสูงที่สุดคือ วันที่ 27 ธ.ค.61 ซึ่งเกิดอุบัติเหตุจำนวน 18 ครั้ง ซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากเมาแล้วขับ และขับรถเร็วเกินกำหนด และตัดหน้ากระชั้นชิด โดยชนิดรถที่เกิดอุบัติมากที่สุดคือมอเตอร์ไซค์ และรถรถเก๋งส่วนบุคคล ส่วนถนนที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ถนน อบต. และหมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 64.71% และถนนทางหลวงแผ่นดิน คิดเป็นร้อยละ 25.49% โดยจะเกิดอุบัติเหตุช่วงเวลา 16.00 – 20.00 น. มากที่สุด โดยปีนี้อายุผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุคือ อายุ 50 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 29.09% รองลงมาคืออายุตำกว่า 20 ปี คิดเป็นร้อยละ 27.27%

ทั้งนี้จังหวัดราชบุรีได้เพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่องโดยเน้น ตั้งด่านตรวจ ด่านชุมชน ตรวจเข้มเมาแล้วขับ การไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน แต่เนื่องจากบางพื้นที่ยังมีการจัดงานเฉลิมฉลองอยู่ ให้มีการปรับย้ายจุดตรวจ จุดบริการให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพพื้นที่ โดยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรตลอดเส้นทางอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความคล่องตัว เนื่องจากอยู่ในช่วงการเดินทางกลับจากภูมิลำเนา ให้ขนส่งจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดรถโดยสารประจำทางให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ให้อำเภอ ร่วมกับตำรวจ ทหาร แขวงทางหลวง แขวงทางหลวงชนบท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกโดยเร่งระบายรถ และเปิดช่องทางพิเศษให้สอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมทั้งติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ บริเวณจุดเสี่ยง จุดที่เคยเกิดอุบัติเหตุ และบริเวณที่มีการก่อสร้างถนนให้เพียงพอ ตลอดจนจัดให้มีรถตรวจการทั้งในถนนสายหลักและสายรอง เพื่อกระตุ้น ตักเตือนให้ประชาชนเกิดความระมัดระวังในการขับขี่เพิ่มขึ้น ขณะที่การเรียกตรวจช่วงรณรงค์ฯ 6 วัน รวม 52,525 คัน ส่งดำเนินคดี 476 ราย มาตรการยึดรถรวม 381 คัน และยึดใบอนุญาตขับขี่รวม 250 ราย

สุจินต์ นฤภัย (เต้)

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link