ราชบุรี – ไปแล้ว!! กำลังพลและยุทโธปกรณ์ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุปาบึก
กรมการทหารช่าง เร่งเคลื่อนย้ายกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ เข้าพื้นที่ภาคใต้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจาก”พายุปาบึก” ที่จะเคลื่อนขึ้นฝั่งวันที่ 4 มค. ระหว่าง จ.ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ซึ่งอาจส่งผลกระทบในพื้นที่ใต้หลายจังหวัด
วันที่ 3 ธ.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า.. หลัง พลตรีเจษฎา เปรมนิรันดร รองเจ้ากรมการทหารช่าง เป็นประธานตรวจความพร้อมกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ในการลงไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยจาก”พายุปาบึก” ในพื้นที่ภาคใต้ บริเวณสนามบินค่ายบุรฉัตร อ.เมือง จ.ราชบุรี ตามคำสั่งของผู้ บัญชาการทหารบก หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานกรณีพายุปาบึกจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณรอยต่อระหว่าง จ.ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ช่วงค่ำวันที่ 4 มกราคม โดยจะมีผลกระทบต่อพื้นที่ภาคใต้ช่วงวันที 4-5 มกราคม ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ และอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ โดยช่วงวันที่ 4 – 5 มกราคม จะมีฝนตกหนักบริเวณกว้างและมีลมแรง บริเวณเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล
ล่าสุดช่วงเวลา 21.00 ของวันที่ 3 ม.ค. กำลังพลและยุทโธปกรณ์ ของกรมการทหารช่าง สำหรับเตรียมการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยจากพายุปาบึก โดยได้ส่งกำลังพลจำนวน 34 นาย และยุทโธปกรณ์เป็นรถสะพานเครื่องหมุนมั่น Modulaf Fast Bridgc จำนวน 2 คัน, รถ Bronco รถสายพานอเนกประสงค์ จำนวน 1 คัน, รถ 5 ตัน ประกอบเครื่องยก จำนวน 1 คัน, รถยนต์บรรทุกขนาด 2 ตันครึ่ง จำนวน 6 คัน, รถยนต์บรรทุก M51 จำนวน 2 คัน และรถกระบะธุระการ จำนวน 1 คัน เข้าร่วมสนับสนุนกับกองทัพภาคที่ 4 ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยจากพายุปาบึก โดยจะเข้าประจำจุดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นจะเข้าร่วมสนับสนุนกับกองทัพภาคที่ 4 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในวันที่ 4 ม.ค.
ทั้งนี้ พลตรีเจษฎา เปรมนิรันดร รองเจ้ากรมการทหารช่าง ได้กล่าวว่า.. ขณะนี้พายุปาบึก กำลังเคลื่อนที่ผ่านทางภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา ซึ่งขณะนี้ได้รับผลกระทบของพายุเรียบร้อนแล้ว ในคืนนี้จะเคลื่อนที่เข้าสู้จังหวัดนรคศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี กรมการทหารช่างได้รับคำสั่งจากท่านผู้บัญชาการทหารบก ให้เคลื่อนย้ายกำลังเพื่อไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน ซึ่งภาระกิจยังไม่ทราบชัดเจนเรายังไม่ทราบว่าพายุปาบึก จะสร้างความเสียหายขนาดไหน แต่เราก็คาคหวังว่าพายุจะไม่สร้างวความเสียหายมากนัก อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาทเราก็จะจัดเตรียมกำลังพล และยุทโธปกรณ์ที่จำเป็น โดยแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกรถยนต์เป็นบรรทุก HTS ที่เคยไปช่วยน้ำท่วมที่ปี 54 ซึ่งจะลงไปร่วมสนับสนุนกับทางกองทัพภาคที่ 4 หรือเรียกว่า”ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 4″ เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน อีกส่วนหนึ่งจะเป็นเครื่องมือช่าง เป็นรถ Bronco รถสายพานอเนกประสงค์ ซึ่งที่เคยไปปฏิบัติงานซึนามิ ซึ่งสามารถขับเคลื่อนบนบกก็ได้ ในน้ำก็ได้ ด้วยความเร็ว 4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กับอีกส่วนก็เป็นรถสะพานเครื่องหนุมมั่น Modulaf Fast Bridgc จำนวน 2 คัน ซึ่งเป็นรถใหม่ที่ทางกองทัพบกเพิ่งได้มา อันนี้ไว้สำหรับช่วยเหลือในกรณีถนนขาด หรือว่าจำเป็นที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ที่อยู่เส้นทางที่ขาดจากถนน สะพานขาด หรือต้องข้ามคลอง ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 4 ก็จะมีรถสะพานคอยรับสถานการณ์อยู่แล้วจำนวน 6 คัน ซึ่งคิดว่าน่าจะเพียงพอ ส่วนในกรณีที่มีความจำเป็นที่ต้องได้รับความสนับสนุนเพิ่มเติม ทางกรมการทหารช่าง โดยท่านเจ้ากรมการทหารช่าง พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเพิ่มเติม อย่างทันทีและเร่งด่วน
สำหรับชุดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ที่ลงไป เป็นส่วนล่วงหน้า ซึ่งความเสียหายยังไม่เกิดแน่ชัดเจน แต่ชุดนี้จะนำเครื่องมือ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นไว้ก่อน กรณีที่มีผลกระทบ และความเสียหายมากขึ้น ชุดที่ลงไปล่วงหน้าก็จะทำการสำรวจประมาณการทางการช่าง และทางกรมการทหารช่างก็จะส่งชุดช่วยเหลือเพิ่มเติมลงไปให้การช่วยเหลือเพิ่มเติม ถ้าหากมีความเสียหายเกี่ยวกับถนน หรือว่าบ้านเรือนประชาชน ท่านผู้บัญชาการกรมการทหารช่าง ก็สามารถสั่งการให้การสนับสนุนร่วมกับหน่วยงานราชการในพื้นที่ได้ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ซึ่งความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในตอนนี้ คือ ไปช่วยผู้ที่อาจจะเกิดอันตรายให้รอดพ้นจากอันตรายก่อน เราก็เชื่อว่ารถ HTS แล้วก็รถ Bronco สามารถเข้าปฏิบัติในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยจากพายุปาบึก ในพื้นที่ได้อย่างแน่นอน
สุจินต์ นฤภัย (เต้)
Leave a Reply