จากกรณี นายไพบูลย์ ศรีทอง อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 1 ต.บ้านหอย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้ร้องเรียนไปยังผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้รับหนังสือจากสรรพากรพื้นที่ปราจีนบุรีเรื่องเตือนให้นำเงินภาษีอากรค้างไปชำระ โดยตนเองถูกเรียกเก็บภาษีมาจำนวน 3 ครั้ง ครั้งแรก 29 ล้านบาท ครั้งที่สอง จำนวนกว่า 335 ล้านบาท และครั้งนี้ 483 ล้านบาทเศษ และยังถูกทางสรรพากรดำเนินคดีอาญาคืบหน้า วันนี้ 14 ม.ค. 62 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำนักงานพื้นที่สรรพกรจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อขอพบกับหัวหน้าสำนักงานพื้นที่สรรพกรจังหวัดปราจีนบุรี รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าหัวหน้าไม่อยู่ในพื้นที่เดินทางไปต่างจังหวัด ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับสรรพากรพื้นที่ปราจีนบุรีเรียกเก็บภาษีจากนายไพบูลย์ ศรีทอง อ้างว่าเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทมาแทน เฟอร์นิเจอร์ จำกัด เป็นจำนวนเงิน 483 ล้านบาทนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่สรรพกรจังหวัดปราจีนบุรี อ้างว่าส่วนตรงนี้สรรพกรจังหวัดไม่มีอำนาจที่จะชี้แจงได้ เว้นแต่จะมีบทบัญญัติ หรืออธิบดีจะสั่งการเป็นอย่างอื่น คือ อธิบดีไม่ได้สั่งการเป็นอย่างอื่นถ้าให้ข่าวจะผิดมาตรา 10 ทันทีส่วนนายไพบูลย์ ศรีทอง เปิดเผยว่า มีบุคลใดที่ผมไม่ทราบเอาเอกสารผมไปเอาไปเพื่อบริษัท ที่เช็คมาก็พอรู้อยู่เอกสารบางใบ ที่เช็คใบที่ 1,2,3 ไม่มีอาจจะเป็นใบที่ 4,5 ประมาณนี้ ผมไม่กำลังที่จะคัดให้หมดก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนกระทำกันแน่ อยากให้ทางหน่วยรัฐ ข้าราชการ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจว่าใครเป็นคนกระทำกันแน่ ใครเป็นไอ้โม่งหรือคุมอำนาจเงินอยู่ในมือของบริษัท ใครเอาชื่อผมไปเปิดบริษัทผมอยากให้หน่วยงานทางตำรวจสืบดู ไม่ใช่เอาเอกสารให้ผมสืบดูหาว่าใครเอาเอกสารผมไปว่ากระทำความผิดถึงจะมาแจ้งความได้ ซึ่งมันไม่ใช่หน้าที่ของประชาชนมันไม่มีความเป็นธรรม นายไพบูลย์ ศรีทอง กล่าวทางด้าน พ.ต.ท.อาทิตย์ ศรีปราชญ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ประจันตคาม พนักงานสอบสวน สภ.ประจันตคาม ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากได้รับการแจ้งความจากเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่ปราจีนบุรีแล้ว ได้ออกหมายเรียก นายไพบูลย์ ศรีปราชญ์ มาทำการสอบสวน เจ้าตัวให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหา 2 ข้อ ไม่ยื่นแสดงภาษี และหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร และจะสรุปสำนวนส่งฟ้องต่อไป
Leave a Reply