จับกุมมิจฉาชีพหลอกลวงซื้อขายยา
ด้วยศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม./รอง ผอ.ศปอส.ตร. , พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. ได้รับร้องเรียนจากประชาชนกว่า 30 คน ซึ่งตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกลวงนำเงินมาลงทุนซื้อยาจากบริษัทขายราคาถูกกว่าท้องตลาดเพื่อขายส่งให้ร้านขายยาทั่วไป มูลค่าความเสียหายมากกว่า 300 ล้านบาท เข้าข่ายกระทำความผิดฐาน ฉ้อโกง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลางดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสืบสวนทราบว่ามิจฉาชีพกลุ่มนี้ คือ นายเติมพงษ์ แสนสุภา มีพฤติการณ์ชักชวนกลุ่มผู้เสียหายให้นำเงินมาลงทุนซื้อยาจากบริษัทขายยา ซึ่งนายเติมพงษ์ฯ อ้างว่าสามารถติดต่อซื้อยาได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด เพื่อนำมาขายส่งให้กับร้านขายยาทั่วไป โดยได้ผลกำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขายยาและการันตีผลตอบแทน 5-30% ต่อเดือน ซึ่งในช่วงแรกได้รับผลตอบแทนจริงจึงเพิ่มจำนวนเงินลงทุนและชักชวนผู้อื่นให้ร่วมลงทุนด้วย ทำให้มีเงินหมุนเวียนในเครือข่ายประมาณ 1,500 ล้านบาท แต่ต่อมาเมื่อถึงกำหนดนายเติมพงษ์ฯ ไม่จ่ายผลตอบแทนตามที่ได้ตกลงไว้ และบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอกลวงได้รับความเสียหาย
พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลางได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง” และต่อมาเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 ชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ติดตามจับกุมตัวนายเติมพงษ์ แสนสุภา ขณะหลบหนีการจับกุม นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลางเพื่อดำเนินคดีต่อไป
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ระวางโทษ “จำคุกไม่เกินหกปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
ขอบคุณข้อมูลข่าวสาร ที่มา พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.
ทีมข่าวเรื่องจริงผานเลนส์รายงาน
Leave a Reply