เปิดโต๊ะเจรจานายทุน-เกษตรกร ปรับลดค่าเช่าแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรใน 4 จังหวัดอีสานเหนือ

เปิดโต๊ะเจรจานายทุน-เกษตรกร ปรับลดค่าเช่าแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรใน 4 จังหวัดอีสานเหนือ

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ห้องประชุมสภ.เมืองอุดรธานีพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.ในฐานะรองผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) พล.ต.ท.บุญลือ กอบางยาง รองผบช.ภ.4 ,พล.ต.ต พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ เลขานุการกรม สำนักงานปปง. สนธิกำลัง พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.หนองคาย พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส.3 ภ.4 พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.ธนารัตน์ มีทองหลาง ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รองผกก.ป สน.ลุมพินี ร่วมกันแถลงข่าวผลการดำเนินการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร ครั้งที่ 2

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินในพื้นที่อีสาน เป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญที่ทางรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญ เร่งรัดขับเคลื่อนแก้ไข ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งที่ผ่านมาเห็นได้ว่าเกษตรกรทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายราย ได้ทำการเช่าที่ดินทำกินกับนายทุน เพื่อประกอบการเกษตรหาเลี้ยงชีพ ไม่สามารถหาเงินค่าเช่าที่ดิน มาชำระให้กับนายทุนได้ อีกทั้งยังพบว่าประชาชนได้ประสบปัญหาเกี่ยวกับการชำระหนี้จากผลผลิตทางการเกษตรที่ไม่เป็นธรรม ทำให้ได้รับความเดือดร้อนและส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวเกษตรกร ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการดำเนินการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร ครั้งที่ 2โดยได้จัดให้มีการพบปะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง นายทุนเจ้าของที่ดินทำกิน176 ราย และประชาชนชาวเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 203 รายในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 4ทั้ง 12จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี, จังหวัดกาฬสินธุ์, จังหวัดขอนแก่น, จังหวัดนครพนม, จังหวัดบึงกาฬ, จังหวัดมหาสารคาม, จังหวัดมุกดาหาร, จังหวัดร้อยเอ็ด, จังหวัดเลย, จังหวัดสกลนคร, จังหวัดหนองคาย, และจังหวัดหนองบัวลำภู มาพูดคุยทำความเข้าใจ และเจรจาไกล่เกลี่ยกัน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ซึ่งผลการดำเนินการสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยปรับลดค่าเช่าที่ดินทำกินลงมาในราคาที่เป็นธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรเบื้องต้น สรุปได้ดังนี้จังหวัดกาฬสินธุ์ เนื้อที่รวม 270 ไร่ ,จังหวัดขอนแก่น เนื้อที่รวม 338 ไร่
จังหวัดนครพนม เนื้อที่รวม 226 ไร่ จังหวัดบึงกาฬ เนื้อที่รวม 125 ไร่ จังหวัดมหาสารคาม เนื้อที่รวม 125 ไร่ จังหวัดมุกดาหาร เนื้อที่รวม 166 ไร่ จังหวัดร้อยเอ็ด เนื้อที่รวม 133 ไร่ จังหวัดเลย เนื้อที่รวม138 ไร่ จังหวัดสกลนคร เนื้อที่รวม 200 ไร่ จังหวัดหนองคาย เนื้อที่รวม 26 ไร่ จังหวัดหนองบัวลำภู เนื้อที่รวม 249 ไร่ และจังหวัดอุดรธานี เนื้อที่รวม300 ไร่ เนื้อที่รวม 2296ไร่
คิดเป็นมูลค่าราคาที่ดิน 308 ล้านบาท

ทั้งนี้รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจริงจังเพื่อให้ประชาชนได้กลับมาทำภาคการเกษตร เพื่อมีที่ทำกินเลี้ยงชีพ และอยู่กันพร้อมหน้าเหมือนสังคมเมื่อก่อน และมุ่งหวังให้ประชาชนเข้าสู่แหล่งเงินทุนมากขึ้น สนับสนุนสินเชื่อฟิโกไฟแนนซ์ และนาโนไฟแนนซ์ อย่างไรก็ดีการดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นการนำร่อง และจะขยายผลต่อไผ ซึ่งยืนยันว่าเราจะอยู่เคียงข้างประชาชน ไม่ปล่อยให้ใครทิ้งไว้ข้างหลัง เพื่อทำให้ชาวนาชาวไร่ในถิ่นอีสาน มีที่ทำกิน และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผบช.สตม.กล่าว

ขอบคุณข้อมูลข่าวสาร ที่มา พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.

ทีมข่าวเรื่องจริงผานเลนส์รายงาน

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link