มุกดาหาร-ทหารพรานสนธิกำลังจับกุมกระเทียมลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 62 พันเอกบุญสิน พาดกลาง ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมุกดาหาร พ.อ.สุภัทร ชูตินันทน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ได้รับรายงานจากสายว่า จะมีการลักลอบขนกระเทียมหัวแห้งจากประเทศเพื่อนบ้าน แล้วมาขึ้นที่ท่าน้ำบ้านนาโปใหญ่ เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ที่ไม่ผ่านกระบวนการทางศุลกากร จึงสั่งการให้พ.ท.ธารนรินทร์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ประสาน ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมุกดาหาร ตชด.ตำรวจน้ำ โดยแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ลงพื้นที่ดักซุ่มตามที่ได้รับแจ้ง
จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.30 น.เจ้าหน้าที่ทหารชุดที่ 1 นำโดย พ.ต.อัครเดช อัครสาร ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2110 ได้ดักซุ่มที่ท่าน้ำบ้านนาโปใหญ่ เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร พบเรือกีบเพลายาวได้วิ่งมาจากประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) และเข้ามาจอดท่าน้ำบ้านนาโปใหญ่ จากนั้นได้มีกลุ่มชายประมาณ 10 – 20 คน ได้ลงไปขนกระเทียมขึ้นมาจากเรือแล้วเอามาใส่ในโกดัง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเพื่อจับกุม กลุ่มชายได้วิ่งหนีไปกับความมืด และได้ปิดประตูล็อคกุญแจโกดัง ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ติดตามไปตามตลิ่งแม่น้ำโขง มีกระเทียมวางกระจัดกระจายในพื้นดิน ไปจนถึงด้านหลังโกดัง เจ้าหน้าที่ประสานบ้านข้างเคียงไม่มีใครมาแสดงเป็นเจ้าของโกดัง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้ประสานเจ้าหน้าที่ศุลกากรมุกดาหาร เพื่อทำการตรวจสอบโกดังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ศุลกากรแจ้งว่าไม่มีอำนาจเข้าตรวจสอบภายในโกดัง ทางเจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ยึดกระเทียมเพียง 15 กระสอบที่อยู่ด้านนอกโกดัง กระสอบละ 20 กิโลกรัม รวมน้ำหนัก 300 กิโลกรัม และยังมีกระเทียมอยู่ในโกดังริมโขงไม่มีเลขที่ อยู่ไม่น้อยกว่า 100 กระสอบ
เจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 ได้ดักซุ่มที่ท่าน้ำบ้านนาโปกลาง เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร พบเรือกีบเพลายาวได้วิ่งมาจากประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) และเข้ามาจอดท่าน้ำ จากนั้นได้มีกลุ่มชายประมาณ 10 คน ได้ลงไปขนกระเทียมขึ้นมาจากเรือแล้วเอามาใส่ไว้ในรถเข็น เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อจับกุม กลุ่มชายได้วิ่งหนีไปกับความมืด และได้ปิดประตูล็อคกุญแจโกดัง เจ้าหน้าที่ประสานเจ้าของโกดังดังกล่าว ให้เอากุญแจมาเปิดโกดัง ต่อมาได้มีชายบอกว่าเป็นเจ้าของโกดังพร้อมนำเอกสารมายื่นให้เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้แสดงใบขออนุญาตนำเข้ากระเทียมที่อยู่ภายในรถเข็น
เป็นที่น่าสังเกตของเจ้าหน้าที่ทหารและผู้สื่อข่าวว่า การนำกระเทียมเข้ามาจาก สปป.ลาว ทางเรือกีบเพลายาวขนาดใหญ่ เมื่อมีการจับกุมเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยตรงแจ้งว่ามีใบนำเข้าสินค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในความเป็นจริงเหตุการณ์ได้มีการขนย้ายขึ้นจากเรือกีบเพลายาวขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยตรงไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เช่นโกดังไม่ได้ขออนุญาต และไม่ได้รับอนุญาตเก็บ โดยผ่านกระบวนของ อย. ซึ่งจะต้องมีสถานที่เก็บ มีการจัดทำบัญชีคุม และไม่มีบัญชีการซื้อขาย ที่จะต้องทำเป็นรายวัน เมื่อมีการจับกุมเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบไม่ให้ความร่วมมือ จึงกลายเป็นภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารที่ต้องทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งตามหลักแล้วเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยตรงน่าจะมีการบังคับใช้กฎหมายให้จริงจัง ก็จะทำให้ผู้ค้ากระเทียมนำสินค้าเข้าระบบในการเสียภาษี ซึ่งจะเกิดประโยชน์แก่รัฐเป็นอย่างมาก
จากการสังเกตของผู้สื่อข่าวในการลงพื้นที่ ในแต่ละครั้งที่มีการจับกุมกระเทียม พอเจ้าหน้าที่จับกุมได้ทางผู้ประกอบการ จะอ้างว่ามีใบเสียภาษีแล้ว ทั้งที่ลักลอบขนเข้ามาทางเรือตามช่องทางธรรมชาติ แล้วมาเก็บไว้ในโกดัง เพื่อสวมกับกระเทียมที่เสียภาษีเข้ามาถูกต้อง พอเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาร่วมตรวจสอบ แต่มีบางหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงไม่มาร่วมในการจับกุมและตรวจสอบ ทำให้เกิดช่องว่างของกฎหมายขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการได้ใจ และมีการลักลอบกระทำความผิดมาโดยตลอด และมีการลักลอบเข้ามาผิดกฎหมายในแต่ละวันจำนวนนับจำนวนมาก
จึงอยากฝากนายกรัฐมนตรี กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดกวดขันกฎหมายที่ต้องนำมาใช้ของแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำราบผู้ค้าสิ่งของผิดกฎหมาย ของหนีภาษีให้หมดไป ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียรายได้จำนวนมหาศาล และเกษตรกรจะได้ลืมตาอ้าปากได้ต่อไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำกระเทียมทั้งหมด นำส่งด่านศุลกากรมุกดาหาร เพื่อดำเนินการตรวจสอบตรวจยึดตามกฎหมายต่อไป