รวบแล้วโจรปล้นร้านทองสัตหีบ หลังหนีกบดานบ้านแม่ที่จังหวัดพิจิตรและขอมอบตัวหวั่นโดนวิสามัญ
จากกรณีเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นชาย รูปร่างท้วมสูงประมาณ 165-175 ซม.ใส่ชุดดำสวมเสื้อยืดแขนยาว และกางเกงยีนส์ขายาว สวมไอ้โม่งหมวกลายพรางทหาร ใช้อาวุธปืนชนิดออโตเมติก ไม่ทราบชนิดและขนาดลงมือจี้ชิงทรัพย์ที่ “ห้างทองสุพัตราเยาวราช” ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสัตหีบ บ้านเตาถ่าน ม.8 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นร้าน ของ ดร.สะถิระ เผือกประพันธุ์ ว่าที่ สส.เขต 8 ชลบุรี ได้สร้อยทองรูปพรรณเป็นสร้อยข้อมือ และสร้อยคอรวม 59 เส้น น้ำหนักรวมทั้งหมด 109 บาท มูลค่ากว่า 2.18 ล้านบาท ก่อนใช้ช่องทางท่อระบายน้ำข้างห้างสรรพสินค้าที่ทะลุเข้าไปในป่าหลบหนีไปนั้น
ล่าสุดเวลา 10.30 น.วันนี้ (30 เม.ย.) พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ มาทำการสอบสวนผู้ต้องหาและทำแผนประกอบคำรับสาร ภาพด้วยตนเอง โดยมี พล.ต.ท. จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภาค 2 และพ.ต.อ.ชโลธร เปรมปรี ผกก.สภ.สัตหีบ ร่วมแถลงข่าวที่ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีร่วมกันปล้นห้างทองสุพัตราเยาวราช ในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสัตหีบ บ้านเตาถ่าน ม.8 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ คือ นายศรชัย นิลสนธิ อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดพิจิตร พร้อมของกลางทั้งหมดรวมจำนวน 49 เส้น น้ำหนัก 109 บาท รวมมูลค่า 2.18 ล้านบาท และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟิลาโนสีแดง เลขทะเบียน จวฉ-469 ชลบุรี ที่ใช้ในการก่อเหตุ
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เผยว่าหลังจากก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไปกบดานในจังหวัดพิจิตร ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ประสานให้มอบตัวและกดดันอย่างหนักจนคนร้ายติดต่อขอเข้ามอบตัวที่ สภ.ภาชี จังหวัดอยุธยา เนื่องจากญาติพี่น้องคนร้ายรู้จักกับเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าที่สามารถติดตามแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี จนทราบว่าคนร้ายใช้ จยย ยามาฮา ฟีโอเร่ สีแดง ทะเบียน จวฉ-469 ชลบุรี และสืบทราบจนถึงตัวผู้ต้องหาและทราบว่าได้หลบหนีที่จังหวัดพิจิตร โดยของกลางทองคำหนัก 109 บาทยังอยู่ครบ โดยผู้ต้องหานำทองและรถที่ใช้ก่อเหตุไปซุกซ่อนที่บ้านแฟน ภายในหมู่บ้านโครงการเคหะเอื้ออาทร ใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
มีรายงานว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าที่ต้องก่อเหตุเพราะมีแรงจูงใจเพราะติดหนี้การพนันไฮโลจนเงินหมด โดยเป็นหนี้เงินสดจำนวน 100,000 บาท และได้นำรถกระบะไปจำนำเพิ่มอีกมูลค่า 150,000 บาท ในเมืองพัทยา อีกทั้งอยากหาเงินเพื่อกลับไปอยู่กับแม่ที่จังหวัดพิจิตรและจะนำเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก ส่วนอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นปืนปลอมแบบบีบีกัน ที่ซื้อมาจากตลาดนัดเทพประสิทธิ์ เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ .ชลบุรี เมื่อ 6 เดือนก่อน โดยหลังเกิดเหตุอาวุธปืนปลอมที่ใช้ได้หลุดจากมือร่วงลงไปในร่องน้ำใกล้เคียงที่เกิดเหตุ จากนั้นก็หลบหนีไปอยู่ที่บ้านแม่ ในจังหวัดพิ จิตร ก่อนจะเห็นภาพตัวเองในข่าวจึงรับสารภาพกับญาติพี่น้อง ก่อนจะติดต่อขอเข้ามอบตัวเนื่องจากกลัวจะถูกวิสามัญ
พร้อมทั้งนี้หลังการแถลงข่าวทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาเดินทางไปยังที่เกิดเหตุเพื่อทำแผนประ กอบรับคำสารภาพท่ามกลางการเฝ้าดูของฝูงชนจำนวนมาก ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป…
Leave a Reply