จากกรณี 3 คนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุปล้นเพชรและของหลุดจำนำมูลค่าความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท พร้อมทั้งทำร้ายร่างกายนายศิริชัย อาศัยพาณิชย์ อายุ 61 ปี เจ้าของร้านจนได้รับอาการบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในร้านศิริชัย ตั้งอยู่เลขที่ 1547 บริเวณปากซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม ปากซอย 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2 พ.ค ที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 4 พ.ค. ทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว 1 ใน ผู้ต้องสงสัยทราบชื่อต่อมาคือนายนพอนันต์ ภูษิตรุ่งโรจน์ อายุ 52 ปี โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่หมู่บ้านหนองคอนไทย ต.กุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พร้อมของกลางหลายรายการ ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 4 พ.ค. ที่สน.เพชรเกษม พล.ต.ต.ธิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.วิเชียร เพชรเสนา รอง ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.ท.สุนทร มาลาเวช รอง.ผกก.สส.สน.เพชรเกษม เจ้าหน้าที่กก.สส.บก.น.9 และฝ่ายสืบสวนสน.เพชรเกษม ร่วมกันควบคุมตัวนายนพอนันต์ ภูษิตรุ่งโรจน์ อายุ 52 ปี พร้อมของกลางทรัพย์สินซึ่งมีมูลค่าหลายรายการ รวม 63 ชิ้น มูลค่าประมาณ 2.3 ล้านกว่าบาท และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูมเมอร์เอ็กซ์ สีน้ำเงิน-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาสอบปากคำเพิ่มเติม ภายหลังสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านเกิดในจ.ชัยภูมิ ก่อนนำตัวไปตรวจค้นทรัพย์สินที่บ้านพักในอ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พร้อมทั้งเชิญตัวนายศิริชัย อาศัยพาณิชย์ อายุ 61 ปี เจ้าของร้านซึ่งตกเป็นผู้เสียหาย และอยู่ในอาการบาดเจ็บที่บริเวณใบหูฝั่งขวามาตรวจสอบทรัพย์สินหลังจากทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมทั้งตรวจยึดทรัพย์สินของกลางได้ดังกล่าว
ด้านผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยประกอบอาชีพเป็นช่างซ่อมจิวเวลรี่ ซึ่งตั้งร้านอยู่ที่บ้านพักในอ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงมีความชำนาญด้านมูลค่าทรัพย์สินต่างๆ ทั้งนี้โดยก่อนเกิดเหตุได้นำทรัพย์สินไปจำนำที่ร้านจุดเกิดเหตุจึงรู้ความเคลื่อนไหวของทางร้านเป็นอย่างดี จึงตัดสินใจชักชวนเพื่อนอีก 2 ราย มาร่วมกันก่อเหตุ โดยตนเป็นหัวหน้าทีมและแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน เมื่อก่อเหตุสำเร็จจึงนำทรัพย์สินของมีค่าทั้งหมดมาแบ่งกัน โดยตนนำไปทั้งหมด 60 กว่ารายการ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2.3 ล้านบาท ส่วนเพื่อนอีก 2 ราย แบ่งกันคนละ 30 รายการ เป็นทรัพย์สินมูลค่า 2.4 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 4.8 ล้านบาท จนกระทั่งมาถูกทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ดังกล่าว
ด้านนายศิริชัย กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ซึ่งทรัพย์สินที่สามารถตรวจยึดมาได้นั้นเกินครึ่งจากที่กลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุไป ทั้งนี้ตนจำรูปพรรณสัณฐานได้อย่างชัดเจนเนื่องจากก่อนเกิดเหตุนายนพอนันต์ เคยมาใช้บริการที่ร้าน นอกจากนี้อยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ร่วมกันปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างรวดเร็วจนนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหา
รายงานข่าวแจ้งว่า โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลอาญาธนบุรี ในช่วงเช้าของวันที่ 5 พ.ค. ที่จะถึงนี้ ก่อนจะมีการแถลงข่าวเพื่อชี้แจงรายละเอียดต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถระบุวันได้ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 ราย ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใดๆ ได้แม้แต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Leave a Reply