ราชบุรี ข่าว – หน่วยงานเร่งให้การช่วยเหลือ แมลงปีกแข็งบุกบ้านชาวบ้านในหลายหมู่บ้าน

ราชบุรี ข่าว – หน่วยงานเร่งให้การช่วยเหลือ แมลงปีกแข็งบุกบ้านชาวบ้านในหลายหมู่บ้าน

วันนี้ 20 พ.ค.62 ที่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 16 บ้านของ นายขจร เจริญวงษา อายุ 47 ปี และบ้านเลขที่ 58/1 หมู่ 2 บ้านของ นางสาวเนตร สากร อายุ 44 ปี ซึ่งอยู่ใน ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในอีกหลายบ้านที่ถูกแมลงปีกแข็งหรือแมลงกระเบื้องบุกยึดบ้าน จนทำให้ไม่สามารถที่จะอยู่ในบ้าน จึงต้องขนย้ายข้าวของออกมา เนื่องจากแมลงดังกล่าวนั้นมีกลิ่นเหม็น เมื่อไปสัมผัสกับตัวแมลงก็จะเกิดผื่นคัน และเป็นรอยไหม้ รู้สึกปวดแสบปวดร้อน และใช้วิธีกำจัดโดยการฉีดยาฆ่าแมลง แต่ก็ช่วยได้เพียงระยะเดียวไม่นานแมลงดังกล่าวก็กลับมาอีก ทำให้วันนี้หลายหน่วยงานต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือ

เบื้องต้นทาง เทศบาลตำบลทุ่งหลวง ได้ให้การช่วยเหลือโดยการให้ทางสาธารณสุขตำบล นำยากำจัดแมลงไปฉีดพ่นแล้ว 2 ครั้งเมื่อวันที่ 19 พ.ค. เพื่อเป็นการกำจัดแมลงปีกแข็งดังกล่าว แต่เนื่องจากแมลงปีกแข็งนั้นทนต่อยากำจัดแมลงจึงต้องใช้เวลาสัก 1 – 2 วัน เพื่อให้แมลงปีกแข็งตายลง นอกจากนี้ ทต.ทุ่งหลวง ยังได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธุ์ทำความเข้าใจในการกำจัดแมลงปีกแข็งและอันตรายเมื่อสัมผัสแมลงปีกแข็ง หรือถูกแมลงปีกแข็งกัดต่อย

ทางด้านนายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้สั่งให้ทางเกษตรและสหกรณ์ จ.ราชบุรี พร้อมศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรราชบุรี ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลงปีกแข็ง พร้อมสั่งให้ดำเนินการหาวิธีในการแก้ไขปัญหาแบบระยะยาว

ด้านนางสมาน ทองเภา อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่แมลงปีกแข็งบุกบ้านก็บอกว่า แมลงได้บุกบ้านตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา จนทุกวันนี้ก็ยังมีแมลงปีกแข็งจำนวนมากเข้ามาในบ้านทั้งหลัง ซึ่งเป็นแบบนี้ทุกปี และทุกปีแมลงปีกแข็งก็จะเข้าแต่บ้านของคุณยายสมาน บ้านเดียว โดยบินมาจากไหนไม่รู้ ซึ่งหลังจากที่มีแปลงปีกแข็งเข้ามาในบ้านเป็นจำนวนมาก ก็จะแจ้งให้หน่วยงานราชการมาให้การช่วยเหลือเป็นแบบนี้ทุกปี ซึ่งคนในบ้านก็จะถูกแมลงปีกแข็งกัดต่อย และมีอาการรู้สึกปวดแสบปวดร้อน มีผื่นแดงคล้ายรอยไหม้เป็นดวงตามตัว โดยที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. จนถึงวันนี้ คุณยายสมาน ได้โกยตัวแมลงปีกแข็งใส่กระสอบทิ้งไปแล้ว 3 กระสอบ และวันนี้อีก 4 กระสอบ

ทางด้านนางทองสุก เสือเฒ่า อายุ 78 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.2 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของนางสมาน ก็ได้เปิดเผยว่า ได้อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวซึ่งใกล้กันกับบ้านคุณยายสมาน ซึ่งตั้งแต่อยู่มาไม่เคยมีแมลงปีกแข็งเข้ามาในบ้าน จะมีแต่บ้านคุณยายสมาน หลังเดียวเท่านั้นในหมู่ที่ 2 ที่มีแมลงปีกแข็งเข้าบ้าน ซึ่งบ้านคุณยายทองสุก ก็เป็นบ้านไม้เหมือนกันแต่ก็ไม่เคยมีแมลงเข้าไปในบ้านเลย ซึ่งตนเองก็คิดเหมือนกันว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ

ส่วนนายณฤทธิ์ บุญชัย เกษตรและสหกรณ์ จ.ราชบุรี กล่าวว่า ขนาดนี้แมลงปีกแข็ง หรือแมลงกระเบื้อง ซึ่งมาลงในบ้านของชาวบ้านในตำบลทุ่งหลวง หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 16 และเพิ่มเติมที่หมู่ที่ 6 ซึ่งแมลงดังกล่าวเป็นพาหะนำโรค เช่นโรคท้องร่วง และเป็นพิษต่อผิวหนังเช่นท้อง ซึ่งแมลงเหล่านี้จะมีวรจรชีวิตอยู่ใต้ดิน ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้ทางเกษตรและสหกรณ์ จ.ราชบุรี และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรราชบุรี พร้อมเทศบาลตำบลทุ่งหลวง ให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากแมลง ซึ่งทางเทศบาลตำบลทุ่งหลวง ได้เข้ามาฉีดพ่นยากำจัดแมลง ซึ่งสารกำจัดแมลงที่นำมาฉีดพ่นไม่มีอันตรายต่อมนุษย์ และสัตว์ ซึ่งเป็นสารพ่นยุ่ง โดยมีการฉีดพ่นไปแล้ว 2 รอบ และพรุ่งนี้ก็จะมีการมาฉีดพ่นอีกรอบหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่มีการฉีดพ่นแมลงก็ลดน้อยลง แต่ว่าการแก้ไขปัญหาระยะยาว ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรราชบุรี ได้แนะนำว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นภัยทางสาธารณสุข เทศบาลตำบลทุ่งหลวงจึงสามารถตั้งงบจัดซื้อยาที่จะมาฉีดพ่น ในรอบ 6 เดือน ซึ่งสามารถป้องกันแมลงดังกล่าวได้ ส่วนวงจรชีวิตของ แมลงดังกล่าวจะมีชีวิตอยู่ใต้ดิน ซึ่งจะชอบดินที่มีความชื้น จึงอาจเป็นไปได้ว่าเมื่อแมลงขึ้นมาจากชั้นใต้ดินจะชอบบ้านไม้ จะสังเกตุได้จากบ้านข้างเคียงซึ่งเป็นบ้านปูน แมลงก็ไม่ได้ลงบ้านนั้น ซึ่งเรายังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด หรืออาจจะเป็นเพราะกลิ่นก็ได้เช่นกัน

ด้านนายสุชิน จักรเพชร รองนายก ทต.ทุ่งหลวง ได้เปิดเผยว่า ในกรณีที่เกิดเหตุแมลงขึ้นบ้านชาวบ้านใน ทต.ทุ่งหลวงนั้น ขั้นต้นทาง ทต.ทุ่งหลวง ได้ดำเนินการให้การช่วยเหลือคือการฉีดพ่นยากำจัดแมลงไปแล้ว 2 ครั้ง และทาง ทต.ทุ่งหลวงยังได้รับคำแนะนำจากจังหวัดในการใช้ยาที่ถูกต้องในการกำจัดแมลง ซึ่งทาง ทต.ทุ่งหลวงจะได้รีบดำเนินการจัดสรรงบซื้อยาตัวนี้ เพื่อนำมาฉีดพ่นให้กับชาวบ้านท่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้แมลงชนิดนี้ยังถือเป็นพาหะนำโรค ซึ่งมีแมลงบางส่วนได้ตกลงไปในภาชนะเก็บน้ำที่ใช้อุปโภคบริโภค ทาง ทต.ทุ่งหลวงจึงได้นำน้ำมาถ่ายเปลี่ยนให้กับชาวบ้านได้ที่รับผลกระทบแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคระบายไปยังประชาชน

สุจินต์ นฤภัย (เต้)

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link