นายกรัฐมนตรี เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่อุบลฯ
วันนี้ (9 ก.ย. 62) เวลา 16.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมราษฎรผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดอุบลราชธานี ณ บริเวณทางหลวง หมายเลข 23 (บ้านกอก) ต.บ้านกอก อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวและอพยพราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมจากบ้านกอก หมู่ 4 ต.บ้านกอก และเป็นศูนย์ตั้งโรงครัวพระราชทาน เป็นที่ตั้งหน่วยปฐมพยาบาล และจุดบริการประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่มาจากต.กลางใหญ่ จำนวน 11 หมู่บ้าน 1,414 ครัวเรือน 5,656 คน โดยมีนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัย
ทั้งนี้ คณะของนายกรัฐมนตรี ได้มอบถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ถุงให้แก่ราษฎร ในท้องที่ อำเภอเขื่องใน ณ จุดพักพิงผู้อพยพดังกล่าวข้างต้น และ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมตรวจสถานที่น้ำท่วมที่ถนนแจ้งสนิท บริเวณบ้านกอก ต.บ้านกอก อ.เขื่องใน จ.อุบลฯ ซึ่งถูกน้ำท่วมสูง 1.50 เมตร ระยะทาง 3 กิโลเมตร พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมการให้บริการของการตั้งศูนย์รับบริจาค การบริการจิตอาสา 904 วปร. การตั้งโรงครัวพระราชทาน โดยมีอดีต 2 ผู้สมัครส.ส.อุบลฯ จากพรรคพลังประชารัฐ นายโกวิทย์ ธรรมานุชิต ผู้สมัคร เขต 2 และ นายอดุลย์ นิลเปรม ผู้สมัคร เขต 1 มาร่วมต้อนรับคณะของนายกรัฐมนตรีและร่วมมอบถุงยังชีพในครั้งนี้ด้วย โดยคณะของนายกรัฐมนตรี ได้ใช้เวลาเยี่ยมและมอบถุงยังชีพพี่น้องประชาชนชาวอำเภอเขื่องใน เป็นเวลา ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ จึงได้เดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ต่อไป
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า รู้ว่าทุกคนลำบาก และเดือดร้อน ก็เป็นห่วงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุ เป็นห่วงทั้ง 32 จังหวัด การซ่อมแซมถนนและสิ่งชำรุด คงต้องรอหลังน้ำลด รัฐบาลห่วงใย และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี และทุกพระองค์ ทรงมีความห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัย โดยได้มีการพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือและโรงครัวพระราชทาน ซึ่งตนเองตั้งใจเดินทางมาในวันนี้ ตนมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวอุบลราชธานีและห่วงทุกจังหวัด จึงมาติดตามการแก้ปัญหาทั้งการช่วยเหลือเฉพาะหน้า ในช่วงน้ำท่วม และการเยียวยา หลังน้ำลด ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมงบประมาณไว้แล้ว แต่ต้องใช้เงินอย่างคุ้มค่าและประหยัด ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ โลกโซเชียล อันตรายมาก มีการยุแหย่และแบ่งแยกเป็นฝ่าย ทำให้เราไม่รักกัน เหมือนแขนงไม้ไผ่ ถ้าแยกเป็นซีกเป็นแขนง หักได้ง่ายดายหักได้หมด แต่ถ้ามัดรวมกันจะหักไม่ได้ รัฐบาลมีหน้าที่มัดรวมแขนงไม้ไผ่ให้เป็นกำ ถ้าสามัคคีกันรวมกัน ใครจะมาทำลายก็ยาก ฝ่ายรัฐบาล ทุกพรรคการเมืองจะช่วยกัน ส่วนของฝ่ายค้านก็รับมา อะไรที่ทำแล้วเป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็ทำ วันนี้รัฐบาลยืนยันจะทำอย่างเต็มที่ เพราะประชาชนเดือดร้อน และจะไม่ยอมให้มีอะไรมาขัดขวางการพัฒนาประเทศอีกต่อไป
จากนั้น นายกรัฐมนตรียังได้ลงเดินสำรวจถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 23 ขอนแก่น-อุบลราชธานีช่วงถนนแจ้งสนิทจากอุบลราชธานี-ยโสธร ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับเจ้าหน้าปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง
อนึ่ง สำหรับ อ.เขื่องใน จ.อุบลฯ เป็นอำเภอ ที่ประสบภาวะน้ำท่วมหนัก และรับมวลน้ำจาก ลุ่มน้ำชี ลำน้ำเซบาย ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2562 เป็นต้นมา ปัจจุบันได้รับผลกระทบ 18 ตำบล 171 หมู่บ้าน ประชากร 10,773 ครัวเรือน ถนน 21 สาย ถูกตัดขาดและ 4 ตำบล 51 หมู่บ้าน 7,284 ครัวเรือน 29,136 คน ถูกตัดขาดจากภายนอก ได้แก่ ต.กลางใหญ่ 11 หมู่บ้าน 1,414 ครัวเรือน, ต.บ้านไทย 12 หมู่บ้าน 1,769 ครัวเรือน ต.สร้างถ่อ 17 หมู่บ้าน 2,580 ครัวเรือน และ ต.ค้อทอง 11 หมู่บ้าน 1,521 คน
กิตติภณ เรืองแสน / ข่าว.
Leave a Reply