พิษเศรษฐกิจทำเสี่ยติดตั้งแก๊สยิงเมียก่อนลั่นไกฆ่าตัวตายตาม

พิษเศรษฐกิจทำเสี่ยติดตั้งแก๊สยิงเมียก่อนลั่นไกฆ่าตัวตายตาม

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 10 ก.ย. 2562

ร.ต.ท.วีรยุทธ ร้องหาญ แก้ว รอง สว.(สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตถูกยิงตาย 2 ศพ ในห้องพักอู่ติดตั้งแก๊สรถยนต์ ชื่อ พระราม 2 ออโต้แก๊ส แอนด์ เซอร์วิส ถนนสุขสวัสดิ์ ปากซอย 46 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม.จึงรายงานงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.ท.ชรินทร์ บัวเผื่อนหอม รอง ผกก.ป.สน.ราษฎร์บูรณะ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พ.ฐ.) แพทย์นิติเวชรพ.ศิริราชและอาสามูลนิธป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นห้องพักพนักงานปั้มแก๊สชั้นเดียวตรงข้ามอู่ติดตั้งแก๊สรถยนต์ในพื้นที่ปั้มแก๊สLPG ตรวจสอบในห้องดังกล่าวพบศพ นาง รมย์รวิญท์ แก้วกำเนิด อายุ 39 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนนาด 11 มม.ที่ศีรษะด้านหลังสภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ นั่งคว่ำหน้าอยู่กับถุงพลาสติกบรรจุเสื้อผ้า ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นสามี นาง รมย์รวิญท์ และเป็นเจ้าของศูนย์ติดตั้งแก๊ส ทราบชื่อ นายดุสิต พิบูลย์สวัสดิ์ อายุ 41 ปีใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองเข้าที่ขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด สภาพศพสวมเสื้อกีฬาสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขาสามส่วน นอนหงายจมกองเลือดใกล้ๆ กันกับศพภรรยา ใกล้ตัวศพผู้ก่อเหตุพบปืนพกสั้น ยี่ห้อโคลท์ ขนาด11มม.ตกอยู่ข้างกาย พร้อมปลอกกระสูนขนาด11มม.จำนวน2ปลอกตกอยู่ในที่เกิดเจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนพยานซึ่งเป็นเด็กปั๊มแก๊ส LPG.ในพื้นที่ใกล้กันกับอู่ของผู้ตาย ให้การว่า ทั้งคู่มีปากเสียงเรื่องเศรษฐกิจไม่ดีและเงินไม่พอใช้มานานหลายวันแล้ว ประกอบกับช่วงนี้งานติดตั้งแก๊สก็ไม่มี ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังมาจากห้องพักดังกล่าวดังขึ้น 2 นัด จึงพากันวิ่งมาดูพบว่าทั้ง2นอนจมกองเลือดไปแล้วจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่และรถพยาบาล

ด้าน นายทวีวงศ์ ไหลเจริญวงศ์ อายุ 42 ปี เพื่อนสนิท นายดุสิต ผู้ตาย เดินทางมายังจุดเกิดเหตุก่อนเปิดเผยว่า นายดุสิต เคยบ่นให้ตนและเพื่อนๆ ในกลุ่มฟังว่า ระยะหลังมีอาการเครียด และมีปากเสียงกับภรรยาบ่อย เนื่องจากเงินทองขัดสน ธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ค่อนข้างซบเซา ประกอบกับมีลูกชายวัย 10 ขวบ พ่อและแม่ต้องดูแล ที่ผ่านมาตนและเพื่อนๆ ก็ช่วยกันปลอบใจไปหลายครั้ง ไม่คิดว่าว่าเจ้าตัวจะหนีปัญหาชีวิตด้วยการก่อเหตุเช่นนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่นิติเวชรพ.ศิริราชเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป