สระบุรี – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพวงมาลาหลวงวางหน้าหีบศพอาสาสมัครกู้ภัยที่ประสบอุบัติเหตุ หลังเดินทางกลับจากแจกของช่วยน้ำท่วม

สระบุรี – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพวงมาลาหลวงวางหน้าหีบศพอาสาสมัครกู้ภัยที่ประสบอุบัติเหตุ หลังเดินทางกลับจากแจกของช่วยน้ำท่วม
เวลา 19:30 น วันพุธที่ 11 กันยายน 2562 ที่วัดสุนทรเทพมุณี (สะพานช้าง) ตำบลบางโขมด อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี นายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี อัญเชิญพวงมาลาหลวงพระราชทานวางหน้าหีบศพ นายพรศักดิ์ สุภาภรณ์ อายุ 29 ปี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่ประสบอุบัติเหตุ ขณะเดินทางกลับจากการแจกของช่วยน้ำท่วมที่จังหวัดยโสธร โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 9 กันยายนฯ ที่ผ่านมา ขณะที่เหลือระยะทางอีกประมาณ 10 กม.เศษ ก็จะถึงบ้านได้มาอยู่กับครอบครัว
ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับการบำเพ็ญกุศลศพ ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และทรงมีพระบรมราชานุญาตให้มีพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ นำมาซึ่งความปลาบปลื้มปิติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต
สำหรับการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพ เมื่อคืนที่ผ่านมา มี พลตรี สุรเดช ประเคณี รองแม่ทัพน้อยที่ 1 รองผู้อำนวยการ ศูนย์จิตอาสาพระราชทาน 904. วปร ภาค 1 เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี หัวหน้าส่วนงานราชการ กลุ่มจิตอาสา วปร. 904 จังหวัดสระบุรี และกลุ่มเพื่อนอาสาสมัครมูลนิธิ มาร่วมพิธีบำเพ็ญกุศล.
ขณะที่ นางกนกวรรณ สุภาภรณ์ อายุ 30 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ได้กล่าวความรู้สึกว่า ได้คุยทางวีดีโอคอลแบบเหน้ากับสามีเวลา20.00 น.เศษ เป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต ซึ่งขณะนั้นสามีบอกว่าถึงจังหวัดนครราชสีมาแล้ว คาดว่าจะถึงสระบุรีประมาณ 5 ทุ่ม ซึ่งยังบอกให้ตนทำกับข้าวไว้ให้ แต่สามีก็ไม่ได้กลับมา และเป็นความสูญเสียของครอบครัว อย่างใหญ่หลวง แต่ก็มีความปลาบปลื้มที่สามีได้ ทำประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งทุกครั้งสามีกลับมาบ้านหลังจากไปทำงานอาสาสมัครกู้ภัยก็จะมีรอยยิ้มและคำพูดเรื่องราวมาบอกเล่าอย่างมีความสุข ทำให้ตนเองมีความปลาบปลื้มไปด้วย และไม่เคยห้าม แม้การเป็นอาสาสมัครกู้ภัย จะต้องเสียสละทั้งเวลา กำลังกาย กำลังใจและกำลังทรัพย์ แต่สามีก็ทำในสิ่งที่ทำได้ตามกำลัง ซึ่งสามีนั้นมีจิตอาสาการช่วยเหลือผู้อื่นมาตั้งแต่สมัยเรียน และทำต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ไปตนเองต้องดูแลลูกทั้งสองคนด้วยตนเองและจะสอนให้ลูกจดจำในสิ่งที่พ่อทำ และการได้รับพระมหากรุณาธิคุณครั้งนี้ ถือเป็นเกียรติยศ ต่อครอบครัว
โดยในวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2562 จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ณ เมรุวัดสุนทรเทพมุณี (สะพานช้าง ) เวลา 17.00 น. ต.บางขโมด อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี