สตม. จับขบวนการนำพาคนไปประเทศที่สามโดยใช้ PASSPORT IMPOSTER

สตม. จับขบวนการนำพาคนไปประเทศที่สามโดยใช้ PASSPORT IMPOSTER ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับ ดูแลชาวต่างชาติ ที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.วิญญู อำนวยสมบัติ รอง ผบก.สส.สตม. ได้แถลงข่าวการจับกุมคดีสำคัญ ดังนี้
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. นำโดย ว่าที่ พ.ต.อ.วัชรพล กาญจนกันทร ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.ท.พีรภัทร์ ปรมพุฒิ รอง ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.ท.เทวกฤต มณีรัตน์ รอง ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.ต.วิชัย สังข์สอน สว.กก.1 บก.สส.สตม. และ ว่าที่ พ.ต.ต.จักรพล นาคแสง สว.กก.1 บก.สส.สตม. พร้อมกำลัง ได้ร่วมกันจับกุม MR.ABBOD (นายอับบอด) อายุ 39 ปี สัญชาติซีเรีย ส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่า “ใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 เวลาประมาณ 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ได้จับกุม MR.MJWAZ อายุ35 ปี สัญชาติซีเรีย MISS DIRBAS อายุ 23 ปี สัญชาติปาเลสไตน์ และ MRS.ALKASEM อายุ 53 ปี สัญชาติปาเลสไตน์ โดยกล่าวหาว่า “ใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า ได้รับการติดต่อและช่วยเหลือจาก MR.HADI H. สัญชาติสวีเดน และ MR.FADI J. สัญชาติสวีเดน ในการจัดหาหนังสือเดินทางของผู้อื่นซึ่งมีลักษณะใบหน้าคล้ายผู้ต้องหา (PASSPORT IMPOSTER) เพื่อใช้เดินทางมายังประเทศไทยและจะเดินทางต่อไปยังประเทศในแถบยุโรป ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า MR.HADI H. และ MR.FADI J. ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยแจ้งที่พักอาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่าน ถนนวิสุทธิกษัตริย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จึงได้ไปตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบ MR.ABBOD ผู้ถูกจับ จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง ในเบื้องต้น MR.ABBOD ได้นำหนังสือเดินทางประเทศสวีเดน ระบุชื่อ MR.FADI MOHAMED พร้อมบัตร ตม.6 ขาออก แสดงแก่เจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า MR.ABBOD มีลักษณะใบหน้าแตกต่างจากภาพถ่ายในหนังสือเดินทาง และมีความสูงต่างจากที่ระบุไว้ในหนังสือเดินทาง ต่อมา MR.ABBOD ให้การยอมรับว่าตนเองอายุ 39 ปี สัญชาติซีเรีย เดินทางมาประเทศไทยด้วยสายการบินไทย วันที่ 11 กันยายน 2562 เส้นทางดูไบ – กรุงเทพฯ ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 12 กันยายน 2562 เวลาประมาณ 06.30 น. หลังจากนั้นได้มีชายชาวอาหรับไม่ทราบชื่อและสัญชาติทราบแต่เพียงว่าเดินทางมาจากประเทศสวีเดน ได้นำหนังสือเดินทางประเทศสวีเดนเล่มดังกล่าวมาให้เพื่อใช้ในการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยได้จ่ายค่าดำเนินการให้กับ MR.HADI H. ในขั้นแรกเป็นเงิน 500 ยูโร (ประมาณ 15,000 บาท) และเมื่อสามารถเดินทางไปประเทศในแถบยุโรปแล้วจะต้องจ่ายเงินให้กับ MR.HADI H. อีกเป็นเงินจำนวน 13,000 ยูโร (ประมาณ 390,000 บาท) สำหรับหนังสือเดินทางประเทศซีเรียของตนเอง MR.HADI H. และ MR.FADI J. เป็นผู้เก็บไว้ ซึ่งทั้งสองคนพักอยู่ห้องพักเดี่ยวกันติดกับห้องของตน จากการตรวจสอบห้องพักของเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สส.สตม. พบหนังสือเดินทางของ MR.MJWAZ สัญชาติซีเรีย, MISS DIRBAS สัญชาติปาเลสไตน์, MRS.ALKASEM อายุ 53 ปี สัญชาติปาเลสไตน์ และ MR.ABBOD สัญชาติซีเรีย ซุกซ่อนไว้อยู่ในกระเป๋าลาก และบนฝ้าเพดานห้องพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จึงจับกุม MR.ABBOD ดำเนินคดีโดยกล่าวหาว่า “ใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

สำหรับ MR.HADI H. สัญชาติสวีเดน และ MR.FADI J. สัญชาติสวีเดน เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราประเภท ผ.30 และได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 11 ต.ค. 2562 การอนุญาตยังไม่สิ้นสุด ผบก.สส.สตม. จึงได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ตามมาตรา 12 (7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และนำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรต่อไป สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link