พ่อเมืองสุราษฎร์ธานีแถลงข่าวเตรียมจัดงานประเพณีชักพระ – ทอดผ้าป่า และแข่งเรือยาวฯ ประจำปี 2562 อย่างยิ่งใหญ่

วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2562 ที่วัดไทร อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวจัดงานประเพณีชักพระ – ทอดผ้าป่า และแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2562 ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 18 ตุลาคม 2562 เพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น ผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม ตลอดจนเป็นการส่งเสริมแนวคิดของรัฐบาลด้านการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ วิถีไทย วิถีพุทธ

โดยการจัดงานในปีนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 18 ตุลาคม 2562 ณ บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำตาปี และบริเวณสะพานนริศ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี โดยวันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2562 (ขึ้น 15 เดือน 11) พิธีฉลองถ้วยพระราชทานฯ ณ บริเวณสะพานนริศ เริ่มจากเวลา 17.30 น. ขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทานฯ ณ สนามหน้าเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีไปยังสะพานนริศ เวลา 18.00 น. พิธีฉลองถ้วยพระราชทานฯ เวลา 19.00 น. การแสดงแสง สี เสียง และเวลา 21.00 – 00.00 น. สมโภชพุ่มเมือง ณ บริเวณศาลหลักเมือง

วันที่ 13 – 14 ตุลาคม 2562 เวลา 09.00 น. แข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธง ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ วันจันทร์ ที่ 14 ตุลาคม 2562 (แรม 1 ค่ำ เดือน 11) เวลา 06.00 น. ชักพุ่มเมือง พุ่มหน้าบ้าน พุ่มประกวด ณ บริเวณศาลหลักเมือง เวลา 08.00 น. ชมขบวนแห่และร่วมลากรถพนมพระ มากว่า 100 วัด เวลา 19.00 น. ชมการแสดงแสง สี เสียง การชักลากพระทางน้ำ ณ ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวร่วมกันระหว่างจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดอุบลราชธานี ภายใต้แนวคิด “เข้าพรรษา เที่ยวงานแห่เทียนเข้าพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานี ออกพรรษา เที่ยวงานชักพระ ทอดผ้าป่าและแข่งเรือยาวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี” เชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างภูมิภาค จากภาคอีสานสู่ภาคใต้ และจากภาคใต้สู่ภาคอีสาน เป็นการพลิกโฉมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ของการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมระดับชาติ ประกาศความยิ่งใหญ่งานประเพณีชักพระ “เทศกาลออกพรรษานักท่องเที่ยวต้องมาสุราษฎร์ธานี” นำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ให้กับจังหวัดสุราษฎร์ธานีอีกด้วย.