ตามนโยบายของรัฐบาลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบช.ทท.,พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง รองผบช.ทท.,พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย รอง ผบก.ทท.1ดำเนินการกวดขันจับกุมกลุ่มบุคคลต่างชาติที่เข้ามากระทำผิดในประเทศไทยในลักษณะขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อีกทั้งดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1บก.ทท.1จึงได้มีการประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยการอำนวยการของ นายพิทยา ปักษาศิลป์ หัวหน้างานรักษาความปลอดภัยจีโฟเอส (ทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส) อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่นักท่องเที่ยวตามนโยบายดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานงานจากฝ่ายรักษาความปลอดภัยของระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส ว่าได้พบบุคคลที่ทำการล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอโศก จึงมีการเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบนายเกษมสันต์ จันทะจร อายุ44ปี แต่ไม่พบผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน กก.1บก.ทท.1ได้ทำการสืบสวนติดตามคัวผู้เสียหายจนพบว่าผู้เสียหายเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติญี่ปุ่น สอบถามเบื้องต้นผู้เสียหายไม่รู้ตัวว่าโดนล้วงกระเป๋า แต่เข้าใจว่าได้ทำทรัพย์สินสูญหายเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ จึงได้พาผู้เสียหายไปร้องทุกข์ที่ สน.ลุมพินี ตามความประสงค์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติผู้เสียหาย และได้ร่วมทำการจับกุมตัวนายเกษมสันต์ฯ ซึ่งนายเกษมสันต์ฯ ให้การรับสารภาพว่าได้อาศัยจังหวัดที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่ทันระวังตัว เปิดคลิปลวงเอาทรัพย์สินมีค่าจัดกระเป๋าสะพายขนาดเล็กด้านหลังของนักท่องเที่ยวได้ของกลางเป็นกระเป๋าสตางค์พร้อมเงินสดจำนวน 4,500 บาทและบัตรเครดิตจำนวน 4 ใบแต่ยังไม่ทันได้นำไปใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสนลุมพินีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายเกษมสันต์เคยต้องโทษในคดียาเสพติดในพื้นที่สน. ทุ่งมหาเมฆเมื่อเดือนตุลาคม 2558 และเคยต้องโทษในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนเมื่อเดือนเมษายน 2559 ในพื้นที่สนทองหล่อและได้พ้นโทษออกมาเมื่อเดือนตุลาคม 2561 แต่ได้กลับมากระทำความผิดซ้ำอีก
Like this:
Like Loading...
Related
Leave a Reply