จ.สงขลา
คณะกรรมการตัวแทนสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย(สนพท.)เยือนประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วยความราบรื่น

สื่อมวลชนของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนให้การต้อนรับ พาทัศนะศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนความรู้กับองค์กรสื่อ รวมถึงแหล่งผลิตสินค้า การค้าการลงทุน แหล่งผลิตสินค้าด้านการเกษตร และด้านการท่องเที่ยว อีกทั้งมีโครงการแลกเปลี่ยนด้านอื่นๆในอนาคต
คณะนำโดยนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทยกับเลขาธิการสมาคมหนังสือพิมพ์สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมด้วยคณะกรรมการ-ที่ปรึกษา รวม 6 คน สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย( สนพท.) โดยนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมฯ เป็นหัวหน้าคณะ นำกรรมการ และที่ปรึกษามาเยือนสมาคมหนังสือพิมพ์สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 11-17 ตุลาคม ผู้ร่วมเดินทางในคณะได้แก่ นายสมมิตร เกตุแก้ว อุปนายก 1 นางวิลาสินี เจริญสุข เลขาธิการฯ นายจรัญ รุ่งมณี กรรมการที่ปรึกษา อดีตนายกสมาคมฯ นายชัชวาลย์ คำไท้ คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ และนายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ คณะกรรมการฝ่ายบรรณารักษ์
โดย TG 614 ได้นำคณะ 6 ชีวิตเหินฟ้าจาก สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 10.00น ถึงสนามบิน เป่ยจิง เวลาเกือบ 15 .00 น โดยมีผู้แทนสมาคมหนังสือพิมพ์จีนและล่าม มิสหลิวหรง มารอรับที่สนามบิน และนำคณะเดินทางไปยังสำนักงานของ สมาคมหนังสือพิมพ์จีน ซึ่งตั้งอยู่กลางใจเมือง

เมื่อไปถึง คณะของ สนพท.ได้รับการต้อนรับจาก ปฏิคม นำไปยังห้องอาหาร ซึ่งเจ้าภาพได้ทำการเลี้ยงต้อนรับ โดยมีคุณ tian yuhong เลขาธิการสมาคมฯ และอุปนายกฝ่ายต่างประเทศ กล่าวต้อนรับ และร่วมงานเลี้ยง โดยมีการแลกเปลี่ยนในเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องความเปลี่ยนแปลงในด้านวิชาชีพสื่อ ซึ่งสื่อเก่า ได้รับผลกระทบจากสื่อใหม่ หรือโซเชี่ยลมีเดีย และเรื่องของ เฟคนิวส์ หรือข่าวปลอม โดยเลขาธิการสมาคมหนังสือพิมพ์จีน กล่าวว่า วันนี้สื่อต่างๆ ในจีนเช่นใน ปักกิ่ง เอกชนสามารถดำเนินการเองได้แล้ว ซึ่งเป็นการพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งของจีน เพราะในอดีต สื่อ จะเป็นของรัฐบาล และปรากฏว่า เอกชน ทำสื่อได้ดี โดยเฉพาะสื่อใหม่ ที่มีกำไร แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีกรอบในการให้ เอกชนที่ ทำสื่อต้องอยู่ในกรอบของ ระเบียบและกฎหมาย นอกจากนั้น ยังมีการหารือ แสดงความคิดเห็นในเรื่อง เศรษฐกิจ ประเด็น “อิใต้ อิลู่” หรือ วันเบลท์ วันโรด หรือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ที่เป็นการร่วมมือกันในเรื่องเศรษฐกิจ ของประเทศในแถบอาเซี่ยน ประเด็นในเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา และประเด็นเรื่อง การตั้งสภาผู้สื่อข่าว วันเบลท์ วันโรด ที่มีตัวแทนของ สนพท.ร่วมอยู่ด้วย หลังจากนั้น ได้มีการมอบของที่ระลึกระหว่าง 2 สมาคม สำหรับสมาคมทั้ง 2 มีความสัมพันธ์มานานถึง 40 ปี มีการแลกเปลี่ยน ตามพันธกิจ ของการเดินทางไปเยือนระหว่างกันปีละ 1 ครั้ง และมีการลงนาม เอ็มโอยู อย่างเป็นทางการเป็นสมาคมแรกของประเทศไทย
พันธกิจในวันที่ 2 ของการเดินทางมาเยือนประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเป็นแขกของสมาคมหนังสือพิมพ์สาธารณรัฐประชาชนจีน ของ สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ( สนพท.)ในวันที่ 12 ต.ค.นี้ คณะของ สนพท. จำนวน 6 คน ได้เดินทางไปเยี่ยมชมกิจการ ฟังบรรยายสรุป และประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนในด้านวิชาชีพ กับ คณะผู้บริหารหนังสือพิมพ์หนงหมินรึเป้า หรือหนังสือพิมพ์เกษตรกร ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่กลางมหานครปักกิ่ง เมื่อไปถึง mr.yang zhihua รองบรรณาธิการ ได้ให้การต้อนรับ นำชมกิจกรรมของหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่นำเสนอข่าวเกี่ยวกับเกษตรกรรม และชนบท หลังจากนั้นได้มีการบรรยายสรุปจาก หัวหน้ากองบรรณาธิการ ซึ่งเป็นสุภาพสตรี ถึงภารกิจของการนำเสนอข่าวสาร การบริหารจัดการ และการผลิต โดยมีการแลกเปลี่ยนถึงวิธีการในการบริหารจัดการของหนังสือพิมพ์ไทย และการนำคณะของ สนพท.ชมรางวัลต่างๆ ที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้รับ จากกระทรวงเกษตร และจากพรรคฯ
หลังจากนั้นได้มีการประชุมร่วมกัน โดย mr.tang yuanjie ซึ่งเป็นผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์หนงหมินรึเป้า ได้กล่าวต้อนรับ และกล่าวถึงที่มาของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ว่า มีอายุถึง 40 ปีแล้ว เป็นหนังสือพิมพ์ของรัฐบาล ที่ต้องการเสนอข่าวสารทางการเกษตร และการพัฒนาชนบท โดยมีการส่งถึงสมาชิก ที่เป็นเกษตรกร 500,000 หมู่บ้าน ตามเป้าหมายของ ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ที่กล่าวว่า ประเทศจีนจะประสพความสำเร็จได้ เมื่อเกษตรกรมีความเป็นอยู่อย่างผาสุข และชนบททุกแห่งได้รับการพัฒนาแล้วเท่านั้น เขากล่าวต่อไปอีกว่า หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ ได้มีการพัฒนาให้มีแผนก สื่อใหม่ หรือ นิวมีเดี่ย หรือโซเชียล นั้นเอง เพราะคนส่วนหนึ่งได้รับรู้ข่าวสารจากสื่อใหม่ ซึ่งขณะได้มีการปรับปรุงพัฒนาสื่อใหม่โดย ใช้งบประมาณถึง 50 ล้านหยวน หลังจากนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายต่างได้มีการแลกเปลี่ยนในเรื่องของเกษตรกรของทั้ง 2 ประเทศ และหารือถึงการร่วมมือกันในด้านการนำเสนอขาวสารทางการเกษตร โดยในอนาคต หนังสือพิมพ์หนงหมินรึเป้า จะมีการสานสัมพันธ์กับ สนพท.โดยตรง เพื่อพัฒนาการทำข่าว การดูงานในด้านการเกษตรของทั้ง 2 ประเทศ หลังจากนั้นได้มีการมอบของที่ระลึกของทั้งสองฝ่าย และหนังสือพิมพ์หนงหมินรึเป้า เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันภายในห้องอาหารของสำนักงาน โดยระหว่างรับทานอาหาร ยังมีการสนทนา แลกเปลี่ยน ในรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ ระหว่าง ไทย-จีน ตลอดจนถึงความร่วมมือในทางเศรษฐกิจ การค้า การศึกษา และการลงทุนร่วมกัน ในโครงการ”อิใต้ อิลู่” หรือ วันเบลท์ วันโรด และในด้านอื่นๆ ในช่วงบ่าย ตัวแทนของสมาคมหนังสือพิมพ์สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้นำคณะของ สนพท.ไปศึกษาดูงาน ในย่านเมืองเก่าของปักกิ่ง ที่เรียกว่า “เฉ่าฉ่าง หูถ้ง” ในย่านเฉียนเหมิน เพื่อให้ คณะของ สนพท.ได้มีความเข้าใจใน สังคมวัฒนธรรม ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ดียิ่งขึ้น
พันธกิจในวันที่ 3 ของการเป็นแขกสมาคมหนังสือพิมพ์สาธารณรัฐประชาชนจีนของ สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ( สนพท.)ในวันที่ 3 ( 13 ต.ค. ) คณะของ สนพท. 6 คน เดินทางไปทัศนะศึกษาที่กำแพงเมืองจีน ซึ่งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตามโปรแกรมที่ เจ้าภาพได้จัดให้ วันนี้สภาพอากาศในมหานครปักกิ่ง หรือ เป่ยจิง เริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นอากาศหนาว อุณหภูมิประมาณ 8 องศาฯ ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี และมีฝนตกปรอยๆ ทำให้คณะของ สนพท.ต้องฝ่าสายฝนและอากาศหนาว 2 องศาฯเพื่อขึ้นไปชมสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างขึ้นโดยมือของมนุษย์ในสมัยของ จิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งประมาณว่า ความสำเร็จของกำแพงเมืองจีน ทับถมไว้ด้วย ชีวิตและเลือดเนื้อของผู้คนชนิดนับไม่ถ้วน แต่กำแพงแห่งนี้ ก็สร้างเงินให้กับประเทศจีนอย่างมหาศาล จากธุรกิจการท่องเที่ยว และยังคงเป็นสถานที่ซึ่งผู้คนทั่วทุกสารทิศ ยังเดินทางมาชมสิ่งมหัศจรรย์แห่งนี่อีกนานเท่านาน ช่วงบ่าย เจ้าภาพนำคณะไปรับประทานอาหารที่ศูนย์การค้า FUN CAPITAL OUTLETS ซึ่งมีสวนสนุกอยู่ด้วย และเป็นที่น่าสังเกตุคือเศรษฐกิจของประเทศจีนก็ไม่ดีนัก เพราะร้านค้าในศูนย์การค้าแห่งนี้ ปิดร้านกันค่อนข้างมาก
หลังจากนั้น เจ้าภาพได้นำคณะมายังสนามบิน ณ กรุงปักกิ่ง อีกครั้ง เพื่อเดินนางไปยัง นครฮาร์บิน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเฮอหลงเจียง อยู่ทางภาคอีสานของจีน ซึ่งเป็นมณฑลที่อยู่ติดกับประเทศรัสเซีย โดยสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ ออกจากสนามบินกรุงปักกิ่งเวลา 18.00 น.ถึงสนามบิน อา เอ่อ บิน เวลา 19.30 น. โดยมี เลขาธิการสมาคมนักข่าวเฮยหลงเจียง หรือ มาดามฉี มารอต้อนรับที่สนามบิน เพื่อนำคณะเดินทางเข้าเมืองฮาร์บิน และเข้าพักที่ โรงแรมจิงกู ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า ที่มีถนนคนเดินและอาคาร มีลักษณะสถาปัตย์แบบของรัสเซีย
พันธกิจ วันที่ 4 ของการเดินทางมาดูงานที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำเชิญของสมาคมหนังสือพิมพ์สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามพันธกิจ ที่มีการสานสัมพันธ์ที่ยาวนานเกือบ 40 แล้ว วันนี้(วันที่ 14 ตุลาคม 62) คณะของ สนพท. ได้เดินทางไปเยี่ยมชมสถานีวิทยุและโทรทัศน์เฮยหลงเจียง โดยมีนาย กวนจุง ผู้อำนวยการ นางฉี้ หนี เหลียน เลขาธิการสมาคมนักข่าวเฮยหลงเจียง นาง จินเหวย รองผู้อำนวยการ และผู้อำนวยการฝ่ายต่างๆ ทั้งฝ่ายวิทยุ และสื่อใหม่ (โซเซี่ยล)สื่อมัลติมีเดีย ให้การต้อนรับ
นำคณะเยี่ยมชม พร้อมบรรยายสรุป ในแต่ละส่วน ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อหลอมรวม เป็นหนึ่งเดียว
สำหรับสถานีวิทยุก่อตั้งมาเป็นเวลา 72 ปี เป็นสถานีแรกในส่วนภูมิภาคของประเทศส่วนสถานีโทรทัศน์ก่อตั้งได้ 60 ปี. ส่วนการหลอมร่วมเข้าด้วยกันเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ปัจจุบัน โทรทัศน์ ออกอากาศ 7 ช่อง วิทยุ 9 ช่องต่อวัน มีสถานีโทรทัศน์ออนไลน์ เคเบิ้ล และ วีแชท มีผู้ชมทั้งประเทศ 11 ล้านคน เป็นอันดับ 8 ของประเทศ
พนักงานของสถานี ได้รับรางวัลดีเด่นจากส่วนกลาง 8 คนได้รับรางวัลอันดับต่างๆ 3 คน สถานีมีการพัฒนาในด้านรายการต่างๆ ที่ทันสมัย มีรายการจราจร รายการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และมีการพัฒนาสื่อใหม่ด้วยงบประมาณมากกว่า 200 ล้านหยวน
วันที่ 15 ตุลาคม 2562 และเป็น 5 วันของการเดินทางมาเยือนประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนของ คณะสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ( สนพท. ) คณะเจ้าภาพ นำคณะของ สนพท.ออกเดินทางจากโรงแรมจิงกู่ เมืองฮาร์บิน ตั้งแต่เวลา 08.30 น เดินทางโดยรถยนต์ไปยังเมืองต้าชิ่ง ซึ่งระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร เพื่อไปเยี่ยมชม อุตสาหกรรมปิโตรเลียมที่ใหญ่สุดของประเทศจีน ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองต้าชิ่ง เมื่อไปถึง มีบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เฮยหลงเจียงรายวัน และคณะได้ให้การต้อนรับ และนำไปชมหอน้ำมันปิโตรเลียมต้าชิ่ง โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ได้ให้การต้อนรับ และบรรยายประวัติความเป็นมาของการพบแหล่งน้ำมัน เมื่อ 60 ปี ก่อนที่เมืองแห่งนี้ ซึ่งผู้ค้นพบคือ นายหลินจิ้นเสียง ซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดาที่ยากเป็นชาวเมืองการซู่ ที่อพยพมาเป็นกรรมการอยู่ที่เมืองต้าชิ่ง และเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมปิโตรเลียม จนกลายเป็นอุตสาหกรรมที่ยิ่งใหญ่ของประเทศจีน และจากการทำงานหนักมาก จึงได้รับสมญานามว่า “คนเหล็ก” และตลอดชีวิต ได้ทุ่มเทกับการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมันเพื่อประเทศจีน แม้แต่ก่อนที่จะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในลำไส้ ยังอุทิศเงินที่มีอยู่ให้กับผู้อื่น ปัจจุบันน้ำมันจากเมืองต้าชิ่งที่ผลิตได้มี 51 เปอร์เซ็นของประเทศ
หลังจากนั้น เจ้าภาพซึ่งมีเลขาธิการสมาคมนักข่าวเฮยหลงเจียงบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เฮยหลงเจียงรายวันและคณะ ได้นำคณะของ สนพท.ไปทานอาหารเที่ยง ณ บ้านสวนเลขที่ 9 ซึ่งเป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ซึ่งเมื่อปีก่อน ประธานสีจิ้นผิง ผู้นำประเทศจีนมาเยือนเมืองต้าชิง ก็มารับทานอาหารเที่ยงที่นี่เช่นกัน หลังรับประทานอาหารเที่ยง คณะได้เดินทางไปเยี่ยมชม หอที่ระลึกหวังจิ้นสี ซึ่งเป็นหอที่ แสดงประวัติของอุตสาหกรรมน้ำมัน ที่เกี่ยวพันกับชีวิตของมนุษยชาติ มีการบรรยายสรุปโดยเจ้าหน้าที่และชมภาพพยนต์ 3 มิติ
ต่อจากนั้น คณะได้เดินทางไปเยี่ยมชมโครงการเกษตรทันสมัยในอำเภอหลินเตี้ยน ซึ่งเป็น 1 ใน 28 อำเภอที่ยากจนที่สุดในมณฑลเฮยหลงเจียง เนื่องจากสภาพที่ดินเป็นดินเค็ม ที่ปลูกพืชแล้วให้ผลผลิตน้อย สถานที่ ซึ่งเจ้าภาพนำไปเยี่ยมชม เป็นฟาร์มปลูกมะเขือเทศ ของบริษัทหงฟู่ ซึ่งเจ้าของเป็นชาวเมืองปักกิ่ง ที่เช่าที่ดินรัฐเพื่อลงทุนทำเกษตรทันสมัย ด้วยการนำพันธุมะเขือเทศ อุปกรณ์ทุกอย่าง และแม้แต่ตัวผึ้งเพื่อใช้ในการผสมพันธุ์เกษตรของมะเขือเทศ จากประเทศเนเธอร์แลนด์ทั้งหมดเข้ามา เป็นฟาร์มทันสมัยที่ควบคุมการปลูกด้วยการให้น้ำ การให้ปุ๋ยและอุณภูมิด้วยคอมพิวเตอร์ และปลอดสารพิษ รวมทั้งไม่มีแมลงเข้าไปในแปลงผลิต และผลผลิตทั้งหมดส่งขายให้กับห้างสรรพสินค้า ในเมืองใหญ่ๆ ในประเทศจีนทั้งสิ้น โดยในการเยี่ยมชมฟาร์มมะเขือเทศแห่งนี้นอกจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทหงฟู่ จะให้การนำชมและบรรยายสรุปแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเมืองต้าซิ่งมาอำนวยความสะดวก และให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง
หลังจากนั้น เจ้าภาพได้นำคณะของ สนพท.เข้าพักที่โรงแรมระดับ 4 ดาว ที่ อ.หลินเตี้ยน ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของน้ำพุร้อน ที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรม โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักเพื่ออาบน้ำพุร้อน และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่/-ของ สมาคมนักข่าวเฮยหลงเจียงได้ให้ข้อมูลว่า แม้จะมีชื่อเสียงเรื่องน้ำพุร้อน แต่ไม่มีสิ่งอื่นดึงดูด จึงยังทำให้อำเภอหลินเตี้ยน เศรษฐกิจ ยังไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งรัฐบาลกลางได้มีโครงการส่งเสริมอาชีพต่างๆให้กับประชาชน เช่นการปลูกข้าวโพด พืช ผัก เลี้ยงปศุสัตว์ และให้คนจนกู้เงินจากรัฐบาลปลอดดอกเบี้ย 3 ปีเพื่อการเลี้ยงหมู โดยตั้งเป็นวิสาหกิจ มีนายทุนเป็นผู้ดำเนินการแทน และแบ่งปันกำไรให้กับผู้กู้เงินลงทุนซึ่งเป็นคนจนมาก เกณฑ์ของคนที่จนมากคือมีรายได้ต่อปีไม่ถึง 3,000 หยวน ( 1 หยวนเท่ากับเงินไทย 5 บาท)
วันนี้ 16 ตุลาคม 2562 เป็นวันที่ 6 ของการเดินทางมาเยือนประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยการเชิญของสมาคมหนังสือพิมพ์สาธารณรัฐประชาชนจีนคณะของ สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ( สนพท.) จำนวน 6 ชีวิต ประกอบด้วยนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคม นายสมมิตร เกตุแก้ว อุปนายก 1 นางวิลาสินี เจริญสุข เลขาธิการ ฯนายชัชวาลย์ คำไท้ คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ คณะกรรมการฝ่ายบรรณารักษ์ นายจรัญ รุ่งมณี กรรมการที่ปรึกษา อดีตนายกสมาคม ซึ่งหลังจากรับทานอาหารเช้าที่โรงแรม 4 ดาวในอำเภอหลินเตี้ยนแล้ว คณะของ สนพทได้เดินทางกลับสู่เมืองฮาร์บินอีกครั้ง ซึ่งเจ้าภาพได้นำไปเยี่ยมชมโลกน้ำแข็งและหิมะในร่ม ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองฮาร์บิน ที่มีชื่อเสียง เป็นอันดับ 1ของโลก ที่ถูกบันทึกในกินเนสบุ๊ค โดยเจ้าภาพได้นำคณะสัมผัสในทุกส่วนของโลกน้ำแข็งและหิมะในร่ม มีเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปให้ทราบ
ในเวลา 14.00 น เจ้าภาพ ได้นำคณะไปเยี่ยมชม สำนักงานหนังสือพิมพ์ ฮา เอ่อ บิน รึ เป้า ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับสำคัญของเมืองฮาร์บิน และมณฑลเฮยหลงเจียง ที่ได้พัฒนาให้เป็นสื่อที่ให้ความสำคัญกับ นิวมีเดีย หรือโซเชียล มีการเชื่อมโยงข่าวสารหลอมรวมระหว่าง หนังสือพิมพ์กับนิวมีเดีย มีการพัฒนา แอปพลิเคชั่น ทุกช่องทาง มีการเปิดโอกาสให้ประชาชน เป็นผู้ร่วมในการรายงานข่าว ส่งข่าวในโซเชี่ยลถึง 700 คน ทั่วทุกพื้นที่ มีการเชื่อมโยงเครือข่ายเป็นระบบที่ทันสมัย มีการประชุมโต๊ะข่าว ระหว่างผู้รับผิดชอบสื่อต่างๆ ถึงวันละ 6 ครั้ง เพื่อผลิตข่าวให้รวดเร็ว และเข้าถึงผู้เสพสื่อให้มากที่สุด โดยผู้อำนวยการ บรรณาธิการ หัวหน้าข่าวในแผนกต่างๆ ได้นำเยี่ยมชม บรรยายสรุป และให้คณะ สนพท.โดยพบกับนักข่าว ช่างภาพผู้ที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมของประเทศ ผู้สร้างสรรค์แอปพลิเคชั่น ที่มีผู้ติดตามชมเป็นจำนวนมากถึงวันละ 2 แสนคนและมีการจัดกิจกรรมการถ่ายภาพ การแสดงนิทรรศการภาพถ่ายโดยการร่วมมือกับเครือข่ายประชาชนที่สนใจในการถ่ายภาพซึ่งมีการอธิบายการทำงาน และนำภาพถ่ายให้คณะ สนพท.ได้ชม
หลังจากนั้นคณะของ ผู้บริหารหนังสือพิมพ์ ฮา เอ่อ บิน รึ เป้า ได้มีการประชุมร่วมกับคณะของ สนพท.เพื่อแลกเปลี่ยนถึงความเปลี่ยนแปลงของวงการสื่อมวลชนของทั้ง 2 ประเทศ และการร่วมมือของสื่อในมณฑลเฮยหลงเจียง กับ สนพท.ที่จะมีต้องมีความสำพันธ์ที่แนบแน่นยิ่งขึ้น สุดท้ายผู้บริหาร หนังสือพิมพ์ฉบับนี่ได้เป็นเจ้าภาพ เลี้ยงอาหารค่ำ ณ ห้องรับรองของสำนักงาน โดยมีเลขาธิการสมาคมนักข่าวเฮยหลงเจียงร่วมด้วยซึ่งเป็นการเลี้ยงอำลาคณะ สนพท.

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link