ทสจ. มุกดาหาร บุกจับขุดหินถนนสี่เลน แผนรั่วผู้รับเหมานำเครื่องมือหนี

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 62 นายสุรเดช อัคราช ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร นายพรภิรมณ์ อุระแสง ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร พ.ท.สุรัช จันทร์พวง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ ดงหลวงและหนองสูง และชุดเคลื่อนที่เร็ว กกล.สุรศักดิ์มนตรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าภูดงสีฐาน ทางด้านทิศเหนือของบ้านคำพอก ท้องที่ตำบลโนนยาง อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร จากการตรวจสอบที่บริเวณพื้นที่ก่อสร้างถนนสี่เลน อยู่ระหว่างดำเนินการของกรมทางหลวงขอเข้าทำประโยชน์ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูดงสีฐาน เพื่อก่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 สายแม่สอด (เขตแดน) –มุกดาหารนั้น ปรากฏว่าไม่พบคนงาน เครื่องจักรกลหนัก รถบรรทุก และผู้รับเหมาแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำบัญทึกแจ้งความดำเนินคดีกับแขวงทางหลวงมุกดาหาร ที่ได้รับมอบอำนาจจากอธิบดีกรมทางหลวง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากบริเวณก่อสร้างถนนสี่เลนยังไม่มีการอนุญาตให้ดำเนินการขุดหิน และทางผู้รับเหมาก่อสร้างได้ขุดหินที่บริเวณก่อสร้างไปใช้ประโยชน์อื่น และต้นไม้ที่สำรวจไว้แล้วที่อยู่ในที่ดินในบริเวณก่อสร้างจำนวน 140 ต้น อาทิ ไม้ประดู่ ฯลฯ ทางผู้รับเหมายังเอาต้นไม้ไปใช้ประโยชน์อื่น ส่วนหินภูเขาที่ถูกระเบิดภูเขาทั้งลูก ได้บรรทุกใส่รถบรรทุกออกไปให้ผู้รับเหมาสร้างเขื่อนอยู่ริมฝั่งโขง และนำไปก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำในจังหวัดมุกดาหาร และนำไปใช้ในพื้นที่ใกล้โรงเรียนบ้านบุง ตำบลภูวง อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าจับกุมและตรวจสอบ ไม่พบเครื่องจักรกล และคนงานทำการก่อสร้าง คาดว่าข่าวการเข้าจับกุมอาจจะรั่ว และทำให้ผู้กระทำความผิดมีการไหวตัวทัน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าแจ้งความคำคดีกับหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบและมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดในครั้งนี้นายสุรเดช อัคราช ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางจังหวัดมุกดาหาร ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีการลักลอบนำหินออกจากพื้นที่ป่าสงวนไปใช้ประโยชน์ในการสร้างเขื่อนตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำโขง ได้ตรวจสอบว่าพื้นที่ป่าสงวนถูกนำหินออกไปสร้างเขื่อนริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยเอาออกไปจากจุดนี้ ได้ตรวจสอบว่าพื้นที่ตรงนี้ แขวงทางหลวงมุกดาหาร โดยอธิบดีกรมทางหลวง ได้มอบอำนาจยื่นคำขอใช้ประโยชน์ ปรากฏว่าทางกรมป่าไม้ยังไม่มีการอนุญาตแต่กรมทางหลวงเข้ามาดำเนินการ ต้องตรวจยึดพื้นที่ไว้ก่อน เพื่อจะได้ติดตามหาแหล่งที่นำหินตรงนี้ไปใช้ประโยชน์นายสุรเดช อัคราช กล่าวต่ออีกว่า ซึ่งทั้งหมดเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และทำไม้ในป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งไม้ในบริเวณนี้จำนวน 140 ต้น ได้สูญหายไปทั้งหมด ในการลงพื้นที่วันนี้คิดว่าแผนรั่ว คือทางผู้กระทำผิดได้ออกจากพื้นที่ คงจะรู้ตัวล่วงหน้า โดยมีการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรออกไปทั้งหมด แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะมีตัวผู้กระทำความผิดชัดเจนอยู่แล้ว นายสุรเดช กล่าวจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าแจ้งความที่ สภ. หนองสูง เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของโครงการและผู้รับเหมาก่อสร้าง และอุปกรณ์การกระทำความผิด และได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน ร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือสัมปทานตามความในพระราชบัญญัตินี้ มาตรา 29 ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าหวงห้าม หรือทำอันตรายด้วยประกรได ๆ แก่ของป่าหวงห้ามต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหนาที่ มาตรา 54 ,55 ฐานกระทำดัวยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น ฐานครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถาง โดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตรา 54 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นแผ้วถางป่า มาตรา 70 ร่วมกันรับไว้ตัวประการใดๆ ซ่อนเร้น จำหน่ายหรือพาเอาไปเสียให้พันซึ่งไม้หรือของป่าที่ผู้ได้มาโดยการกระทำผิดตามบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิด และกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ฐานยึดถือครอบครองเช้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 15 ทำไม้หรือเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดย ไม่ได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ประกาศไว้เป็นคราว ๆ ในป่าสงวนแห่งชาติแห่งหนึ่งแห่งใดโดยเฉพาะ และเป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 8)พ.ศ.2559 มาตรา 26 /4 , 31 ฐานกระทำหรือละเว้นการกระทำการประการใดๆโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลายหรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายเก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมด ของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายสูญหายหรือเสียหาย ฐานผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแค่สี่ปีถึงยี่สิบสิ และปรับตั้งแต่สองเสนบาทถึงสองล้านบาท ในกรณีทำให้เกิดความเสียหายแก่ไม้อื่น ที่เป็นต้นหรือเป็นท่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างรวมกันเกินยี่สิบต้นหรือท่อนหรือรวมปริมาตรไม้เกิน สี่ลูกบาศก์เมตร หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้างแผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำให้เสื่อมเสียสภาพป่าสงวนแห่งชาติ.
ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร081-0501177

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link