ปราจีนบุรี ดูไปดูมาพาไปดูว่านกระสือ!!

จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้า จากที่ชาวบ้านคลองฟันปลา หมู่ 14 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี จำนวนหลานคน พบดวงไฟประหลาดมีสีส้มนวลตาลักษณะกลมเกือบเท่าผลมะพร้าวลอยเหนือพื้นกว่า 2 เมตรเศษและระดับปลายยอดไม้ คาดว่าเป็นผีกระสือ ออกหากินปูปลากบเขียดในหนองน้ำคลอง ที่น้ำกำลังแห้งในหน้าแล้ง ขณะชาวบ้านกำลังนั่งล้อมวงถักไม้กวาด และ กลุ่มเด็กวัยรุ่นที่รู้ข่าวและต้องการบุกพิสูจน์ไลฟ์สด ลองของ หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูพร้อมชาวบ้านพากันดักรอดูตลอดทั้งคืน ขณะที่ผู้นำท้องถิ่นยังต้องรอการพิสูจน์ว่าเป็นผีกระสือจริง ๆ ตามที่ได้นำเสนอก่อนหน้านี้ นั้น
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ 1 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปในหมู่บ้านคลองฟันปลา หมู่ 14 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ที่มีคนพบแสงประหลาดและลือว่าเป้นผีกระสือ หรือ อาจเป็นว่านผีโพงที่คนเลี้ยงดูแลไม่ดี
พบพระปลัดอภิสิทธิ์ อริโยหัวหน้าสำนักสงฆ์คลองฟันปลา ต.โพธิงาม อ.ประตันตคาม จ.ปราจีนบุรี พร้อมมีชาวบ้านมาขอคำปรึกษาเรื่องผีกระสือที่คนกล่าวถึง

พระปลัดอภิสิทธิ์ ได้ให้ข้อคิดจากกรณีที่ญาติโยมบ้านคลองฟันปลาโจทย์จานถึงการเห็นดวงไฟดวงใหญ่ลอยอยู่ข้างบ้านเรือนญาติโยม หลังจากเห็นดวงไฟดวงนั้นแล้วเชื่อกันว่าเป็นดวงไฟผีกระสือที่ออกมาหากินในเวลาค่ำคืน ทั้งนี้มีการพบเห็นดวงไฟเมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค.62 ที่ผ่านมาจากนั้นมีการพูดปากต่อปากจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วและมีคนแชร์ทางโลกโซเชียล รวมตัวกันมาเพื่อที่จะจับกระสือในช่วง 1-2 คืนที่ผ่านมาสร้างความอกอกตกใจแก่บรรดาเด็กและเยาวชนในหมู่บ้าน
พระปลัดอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้ทุกคนฉุกคิดใช้หลักธรรมะในการที่จะเอ่ยถึงสิ่งที่มองไม่เห็น ทุกสิ่งล้วนเกิดมาและดับไป สิ่งที่พบเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คิด และพูดกันไป แสงไฟที่เห็นอาจเป็นแสงไฟจากโคมลอย ที่มีคนปล่อยลอยมาตามอากาศ ส่วนตนคิดว่าไม่ใช่แสงไฟของผีกระสือแต่อย่างใด
ตลอดเวลาที่ผ่านมากว่า 30 ปี ที่มาจำพรรษาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เป็นหมู่บ้านใหม่ยังไม่เคยพบเห็นผีสางนางไม้แต่อย่างใด ขอให้ทุกคนใช้สติและหลักธรรมคำสั่งสอนมาใช้เพื่อจะได้ยึดเหนี่ยวจิตใจที่บริสุทธิ์
จากการสอบถามประชาชนในหมู่บ้านหลายคนบอกว่าได้ยินแต่เด็กในหมู่บ้านพูดกันเป็นส่วนใหญ่ คนที่มาดูและมาค้นหาแสงไฟสีส้ม ที่อ้างว่าเป็นแสงไฟของผีกระสือ ส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านทุกคนบอกว่าไม่เคยมีเรื่องผีกระสือมาก่อนสักครั้ง เพิ่งจะมาเคยได้ยิน ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริงสิ่งที่เห็นอาจเป็นแสงไฟอื่นมากกว่า

ผู้สื่อข่าวได้พบกับอาจารย์ศิริวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 92 ปี ชาว อ.ประจันตคามผู้ใช้สมุนไพรว่านโพงมาประกอบเป็นตัวยาสมุนไพร กล่าวว่า “ อ.ประจันตคาม ที่มีคนปลูกว่านโพงจะเป็นผู้สูงอายุอยู่แถบบ้านโคกสว่าง บ้านทุ่งยาว บ้านคลองฟันปลา ซึ่งอยู่ใกล้เชิงเขาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ การเลี้ยงดูว่านโพง คนปลูกจะเลี้ยงด้วยอาหารคาว เป็นกบ เขียด หรือ น้ำคาวปลา ในช่วงวันโกนก่อนวันพระ
และจากกรณีที่มีผู้พบเห็นดวงไฟลอยไปมาขึ้นลง ในพื้นที่คลองฟันปลา ต.โพธิ์งาม อ.ประตันตคามจ.ปราจีนบุรี แสงไฟที่อาจเกิดจากว่านผีโพง ว่านผีโพงตามที่เคยรู้มาสมัยหนุ่ม และปลูกมา ว่านโพงมี 3 ชนิด ได้แก่ว่านโพงไข่ ,ว่านโพงเหล็ก และว่านโพงใหญ่ ว่านสามอย่างนี้มีข้อแตกต่างกัน ว่านโพงไข่คนปลูกจะเลี้ยงด้วยไข่ว่านเหล็กจะคล้ายกัน แต่ว่านโพงใหญ่ผู้ปลูกจะดูแลหรือเลี้ยงด้วยเนื้อสดของคาว กบหรือเขียด
หากไม่ดูแลให้ดีจะกลายเป็นดวงไฟออกหากินในยามค่ำคืน แต่จะไม่เป็นอันตรายแก่คน บ้างก็มีคนเล่าว่าคนเลี้ยงไม่ดีจะกลายเป็นดวงไฟมีรูปหน้าคนเลี้ยง
ว่านโพงสมัยก่อน ขึ้นอยู่ตามป่าเขา หากินกบเขียดเป็นอาหาร คนทั้งหลายทั้งปวงโปรดใช้วิจารญาณในการรับฟังและตัดสินใจ ความเชื่อสิ่งลี้ลับบางทีอาจไม่ใช่ผีกระสือว่านโพงก็เป็นได้
จากนั้นได้นำผู้สื่อข่าวชมว่านผีกระสือ หรือ ว่านผีปอบ หรือ ว่านผีโพง ลักษณะของต้นและหัวของว่านชนิดนี้ มีลักษณะคล้ายขมิ้นอ้อย สีขาว รสฉุนร้อน เมื่อหัวแก่มีธาตุปรอทลงกิน มีพรายเป็นแสงแมงคาเรืองในเวลากลางคืน มีสรรพคุณอยู่ยงคงกระพัน แต่บางตำราก็ว่าผีโพงนั้น เกิดกับคนที่มีว่าน หรือเลี้ยงว่านยาอันมีฤทธิ์แรงกล้า มักเลี้ยงหรือบำรุงด้วยอาหารคาว หากดูแล หรือเลี้ยงไม่ดี หัวว่านโพงจะออกหากินเอง
โดยเรืองแสงเป็นดวงไฟ หากใครพบเห็นจะมีใบหน้าคล้ายกับคนแก่ หรือที่เลี้ยงว่านโพงนั้น ในเวลากลางคืนตอนดึกๆ โดยเฉพาะเวลาที่ฝนตกพรำ ๆ ว่านชนิดนี้ จะออกหากินแบบเดียวกับผีกระสือ จะมีดวงไฟเล็กๆ สว่างเรืองๆ อยู่ที่ปลายจมูกและหยดลงเป็นหยดๆ เหมือนหยดน้ำ ผีโพงจะออกหากินตามหนองน้ำ หรือทุ่งนาหลังฝนตก อาหารของผีโพงคือกบ และเขียด ซึ่งผีโพงจะกินด้วยการจับมาดูดเอาเมือกกินทีละตัวๆ โดยปกติ ผีโพงจะกลัวคน แต่ถ้าหากใครทำให้เจ็บใจ ผีโพงจะเอาไม้คานของแม่ม่ายพุ่งข้ามหลังคาบ้าน แล้วในทีสุดคนนั้นก็จะพบกับความพินาศวอดวายที่น่าสังเกตก็คือ ผีโพงนั้นจะมีหน้าตาคล้ายกับเจ้าของหรือผู้ปลูกว่าน แต่เดี๋ยวนี้ว่านชนิดนี้ไม่ค่อยมีใครนิยมแล้ว แทบจะสาปสูญจากวงการว่าน เพราะถือว่าเป็นอัปมงคล…

ศูนย์ข่าวเรื่องจริงผ่านเลนส์ประจำจังหวัดปราจีนบุรีรายงาน

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link