มุกดาหาร! ทนายความคนดังเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัทรับเหมาในการสร้างถนน หลังพบหินล่องหน

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 62 เวลาประมาณ 13.30 น. นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ทนายความชื่อดังประธานที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และชมรมพิทักษ์สิ่งแวดล้อมได้เดินทางไปที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงภูสีฐาน ตามข่าวที่มีการระเบิดภูเขาป่าดงภูสีฐาน บ้านคำพอก ตำบลโนนยาง อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อหาข้อเท็จจริงตามข่าวที่มีสื่อโซเชียลและพี่น้องประชาชนคนมุกดาหารออกมาตื่นตัวเกี่ยวกับการกระทำที่บังอาจละเมิดต่อข้อกฎหมายและไม่สำนึกรักต่อทรัพยากรแผ่นดินของชาติ ด้วยประเด็นสืบเนื่องมาว่ากรมทางหลวงได้มีงบประมาณก่อสร้างทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 12 สายแม่สอด (เขตแดน)-มุกดาหาร ตอนบ้านนาไคร้-อำเภอคำชะอี เพื่อเชื่อมเขตเศรษฐกิจ แต่ประเด็นที่มีการนำเสนอข่าวกันอย่างต่อเนื่องในจังหวัดมุกดาหารเกี่ยวกับการระเบิดภูเขาซึ่งเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงภูสีฐาน และนำหินออกจากพื้นที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงภูสีฐานไปใช้ในประโยชน์ส่วนตนนำไปก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งแนวเขตระบายน้ำภายในจังหวัดมุกดาหารและเขื่อนกันตลิ่งบริเวณริมแม่น้ำโขงจังหวัดนครพนม
นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ทนายความประธานที่ปรึกษาด้านกฎหมายและชมรมพิทักษ์สิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ได้มีชาวบ้านบางคนและผู้สื่อข่าวได้ร้องขอไปยังสำนักงานทนายความและประธานชมรมพิทักษ์รักษ์สิ่งแวดล้อมว่า ในการก่อสร้างทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 12 สายแม่สอด (เขตแดน)-มุกดาหาร ตอนบ้านนาไคร้-อำเภอคำชะอี ก่อนได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ในป่าสงวนแห่งชาติ ป่งดงภูสีฐาน ท้องที่ตำบลโนนยาง อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร และเมื่อได้เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อพิสูจน์ทราบตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง และได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร กลับบริษัทผู้รับเหมา คู่สัญญากับกรมทางหลวงและบริษัทที่เป็นผู้ทำงานร่วม ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นนิติบุคคลที่เข้าบุกรุกระเบิดเอาทรัพยากรของกรมป่าไม้ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบและเป็นทรัพย์สินในที่สาธารณะ (ป่าสงวนแห่งชาติ) ซึ่งความเสียหายดังกล่าวเป็น ดิน หิน ทราย ในเนื้อที่ 14 ไร่ 3 งาน 32 ตารางวา ความลึกประมาณ 8 เมตร กว้าง 80 เมตร ยาว 300 เมตร จำนวน 192,000 ลบ.ม. เป็นความเสียหายไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท อันเป็นการทำให้เกิดความเสียหายต่อภาครัฐและเป็นมูลความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ ดินเป็นทรัพย์ที่มีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์ จากนั้นได้มอบหลักฐานการกระทำผิด ภาพถ่าย พร้อมภาพเคลื่อนไหวให้กับทางเจ้าที่ตำรวจเพื่อสืบหาผู้กระทำความผิดและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป