ไหม้โรงพักศาลาแดง รอง สว. สส.ฝ่าเปลวไฟช่วยเหลือผู้ต้องขังรอดหวุดหวิด !!!

เมื่อเวลา17.30 น.วันที่ 5 พ.ย.2562

ในขณะที่ ดต.ธนัช ชาปัด เจ้าหน้าที่สิบเวร
สน.ศาลาแดง กำลังปฏิบัตหน้าที่อยู่บนชั้น2 ของโรงพัก
ได้ยินเสียงคล้ายไฟฟ้าลัดวงจรดังขึ้นที่แผงวงจรไฟฟ้าที่อยู่ในห้องเก็บพัสดุ
ซึ่งอยู่ในห้องเดียวกับห้องควบคุมผู้ต้องหา
จึงรีบวิ่งไปดูพบว่าสะเก็ดไฟได้กระเด็นไปถูกกล่องกระดาษและเอกสารต่างๆ
ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว
จึงลงไปเรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่สายตรวจให้นำถังดับเพลิงมาช่วยกันทำการดับ
แต่วัสดุส่วนมากเป็นไม้และกระดาษทำให้การดับเพลิงไมเป็นผลลุกลามอย่างรวดเร็ว
จึงเรียกรถดับเพลิงมาช่วยทำการดับ โดยใช้เวลานานประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ
เพลิงไหม้พัสดุเกือบหมดทังห้อง รวมทั้งห้องขังและห้องสิบเวรบางส่วน
ซึ่งห้องสิบเวรอยู่ติดกับห้องของ พ.ต.อ.กฤตินาท ตุลยลักษณ์
ผกก.สน.ศาลาแดง พื้นที่ความเสียหายประมาณ 10 ตรม.

ดต.ธนัช กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนชั้น2
ขณะนั้นยังไม่มีประชาชนเข้ามาแจ้งความ
มีพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่สายตรวจประมาณ10 นาย
และฝ่ายสืบสวนที่ห้องแยกออกไปจากตัวโรงพักอีกประมาณ 10 นาย
ก่อนเกิดเหตุประมาณ 5 นาที
ฝ่ายสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาเป็นหญิงคดีครอบครองยาเสพติดมาคุมขังในห้อง
โดยก่อนนี้ห้องขังไม่มีผู้ต้องขังเลย
จากนั้นได้ยินเสียงคล้ายไฟฟ้าลัดวงจรเกิดขึ้นในห้องพัสดุ
ซึ่งเก็บอุปกรณ์ปราบจราจล(ปจ.)เช่น เสื้อ กางเกง กระบอง
โล่ห์และเอกสารการเบิกจ่าย
ส่วนมากจะใส่ไว้ในกล่องกระดาษและวางอยู่บนชั้นที่ทำจากไม้
เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว
ตนเรียกฝ่ายสืบสวนให้มานำตัวผู้ต้องหาออกไปได้อย่างปลอดภัย
หลังจากนั้นเพลิงก็ลุกลามอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งต้องเรียกรถดับเพลิงมาช่วยดับ โชคดีที่เอกสารสำนวนคดี ของกลาง
รวมทั้งปืนของหลวงอยู่บนชั้น3 ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

ร.ต.ท.ดวงแก้ว ทาสีคำ รอง สว. สส. สน.ศาลาแดง เผยว่าขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สิบเวรลงมาบอกว่าเกิดไฟช็อตที่ห้องเก็บอุปกรณ์ด้านบนชั้น 2 จึงได้ขึ้นไปช่วยกันทำการใช้ถังดับเพลิงทำการดับแต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ระหว่างนั้นจึงได้ช่วยกันหากุญแจไขประตูห้องควบคุมผู้ต้องขังเพื่อช่วยผู้ต้องขังเป็นหญิง 1 รายออกมาจากห้องขังระหว่างนั้นเพลิงได้ลุกขึ้นกว่าเดิมแต่ก็ยังพอทนความร้อนได้ โดยช่วยผู้ต้องขังออกมาได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานให้มาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง