สระบุรี (คืบหน้า)แม่น้องพลอย ฟังศาลกีฏาตัดสินคดีทหารอุ้มนั่งยางน้องพลอย 3 ปี

วันที่ 15 ม.ค. 63 นางพัชรี ปั้นทอง พร้อมนายวิชา ผลิผล พ่อน้องพลอย และทนาย ปิยะณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ รณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางเข้ารับฟังผลคำสั่งพิพากษาศาลฎีกา กรณี สิบเอกพลกฤต วิเศษ อุ้มฆ่าเผานั่งยางน้องพลอย หรือนางสาวพลอยนรินทร์ ผลิตผล หลังจากหายตัวไปสามปีกว่า ก่อนจะถูกพบเป็นศพไร้ญาติในป่า โดยทางแม่น้องพลอยต้องการให้ศาลลงโทษประหารชีวิต ส.อ.พลกฤต วิเศษ ทหารคนดังกล่าว หลังฟังคำพิพากษาเป็นเวลา 1ชั่วโมง ศาลกีฏาตัดสิน ให้ยืนตามคำพิพากษาศาลอุทรณ์ จำคุก 33 ปี 11 เดือน ปรับ 1 ล้าน 5 แสนบาท
นางพัชรี ปั้นทอง กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ ว่า นับแต่วันนี้ ขอให้ชีวิตของแม่มีแต่ความสุข พบแต่สิ่งดีๆสุขภาพกายใจแข็งแรงและขอให้น้องพลอยไปสู่ภพภูมิที่ดีๆและขอใช้ชีวิตในส่วนของแม่ทำบุญให้น้อง และก็ขอให้อย่ามีอะไรมาผูกพันกับคนร้าย ส่วนที่จะอโหสิไม๊ขอเพียงว่าอย่าได้มาผูกพันกันอีกต่อไป ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม การกีฏาของแม่ ก็คือขอเพิ่มโทษ ก็คือศาลพิพากษายืน 33 ปี 11 เดือน พร้อมชดใช้ 1ล้าน 5 แสนบาท ส่วนที่การตัดสินของศาล พึงพอใจมัย ตนรู้สึกน้อยใจ ในกระบวนการยุติธรรม แต่ครั้งนี้มีก็ทำใจไว้แล้ว ว่าผลออกมาจะต้องเป็นแบบนี้ เพราะว่าหลายๆคดีที่ออกข่าว ฆ่าคนไม่รู้ตั้งกี่ศพ ยังไม่ประหารเลย แล้วเขาก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้รอดจากการถูกประหารชีวิต แต่อย่างไรก็ตามแม่ก็ขอน้อมเคารพต่อการตัดสินของศาล ในมุมมองอีกมุมหนึ่งก็ถือว่ายังดชคดีดีที่จับคนร้ายมาลงโทษได้
ทนาย ปิยะณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เผยว่า คดีอุ้มฆ่าอำพรางศพผมมองว่า จริงๆไม่ควรเป็นเหตุให้ลดโทษ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยความเคารพต่อคำพิพากษาของศาลกีฏา ก็น้อมรับไปตามนั้น ก็เป็นจุกตัดของกระบวนการยุติธรรม ต่อไป ระหว่างเจอศพกับไม่เจอศพ ทำให้ไม่เจอศพง่ายกว่าไม๊ ก็เป็นเรื่องที่สังคมอาจจะตั้งข้อสงสัยได้ต่อไป ถ้าทำให้ไม่เจอศพและอำพรางศพโทษน้อยกว่าไม่ประหารชีวิตน้อยกว่าที่มาเจอศพแล้วมารับสารภาพที่หลังป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างนี้ต่อไปคนก็ฆ่าแล้วอำพรางศพ แล้วสังคมจะอยู่อย่างไร ///

สมภพ พิมมะศร

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link