“พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง ศธ.กับ สธ. เรื่อง “การนำความรู้เกี่ยวกับกัญชาและกัญชงไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน”

วันอังคารที่ 28 มกราคม 2563 กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่อง “การนำความรู้เกี่ยวกับกัญชาและกัญชงไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน” โดยมุ่งหวังให้ สามารถนำความรู้เกี่ยวกับกัญชาและกัญชงไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพิ่มคุณภาพด้านวิชาการด้วยการบูรณาการข้อมูลด้านการแพทย์กับด้านการศึกษา พัฒนาหลักสูตรเกี่ยวกับกัญชาและกัญชงเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา พัฒนาแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ และการประสานความร่วมมือให้เกิดเป็นภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็งในการให้ความรู้แก่นักศึกษาและประชาชนทั่วไปให้มีประสิทธิภาพ ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานและสักขีพยาน ในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่าง กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข โดยมี นางรักขณา ตัณฑวุฑโฒ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และ นพ. สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นตัวแทนลงนาม โดยมีวัตถุประสงค์ความร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนุน การจัดการเรียนการสอนหลักสูตรเกี่ยวกับกัญชาและกัญชงศึกษา ให้กับนักศึกษาและประชาชนซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ คือ ร่วมส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรเกี่ยวกับกัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้และศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ในรูปแบบที่เหมาะสม ให้แก่นักศึกษาและประชาชนทั่วไป และ ร่วมส่งเสริมพัฒนาและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางด้านวิชาการ แก่บุคลากร นักศึกษา และชุมชนในเครือข่าย ตลอดจนร่วมจัดกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “กัญชาและกัญชงเป็นพืชชนิดเดียวกันแต่ต่างสายพันธุ์ ทั้งสองชนิดให้สารออกฤทธิ์ทางยาในกลุ่มเดียวกัน แต่มีสัดส่วนสารสำคัญที่มีผลและไม่มีผลต่อจิตประสาทต่างกัน และสามารถผสมข้ามสายพันธุ์กันได้ ปริมาณและคุณภาพสารที่ได้ทั้งกัญชาและกัญชงขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ทำให้พืชทั้งสองแยกออกจากกันได้ยากสังคมไทยมีการใช้กัญชาเป็นยา อาหาร และใช้ผสมในอาหารเลี้ยงสัตว์บางชนิด มาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ปัจจุบันคนในสังคมโลกมีความนิยมใช้กัญชาสูงขึ้นเรื่อยๆ ประเทศไทยได้มีการศึกษาวิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์ ดังนั้นมีความจำเป็นที่คนไทยควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโทษ ผลข้างเคียง ประโยชน์ รวมทั้งวิธีใช้กัญชาอย่างถูกต้องและเหมาะสม จึงสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคมไทยได้

รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนตามที่แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ที่กำหนดให้มีการช่วยเหลือเกษตรกร และพัฒนานวัตกรรม เร่งศึกษาวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีการใช้กัญชา กัญชง และพืชสมุนไพรในทางการแพทย์ อุตสาหกรรมทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการสร้างรายได้ของประชาชน โดยกำหนดกลไกการดำเนินงานที่รัดกุม เพื่อมิให้เกิดผลกระทบทางสังคมตามที่กฎหมายบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การดำเนินนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการจึงได้ร่วมมือกันดำเนินการนำความรู้เกี่ยวกับกัญชาและกัญชงไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพิ่มคุณภาพด้านวิชาการด้วยการบูรณาการข้อมูลด้านการแพทย์กับด้านการศึกษา พัฒนาหลักสูตรเกี่ยวกับกัญชาและกัญชงเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา พัฒนาแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ และการประสานความร่วมมือให้เกิดเป็นภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็งในการให้ความรู้แก่นักศึกษาและประชาชนทั่วไปให้มีประสิทธิภาพ

ในนามของกระทรวงศึกษาธิการ ขอขอบคุณสำนักงาน กศน. โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่ร่วมกันผลักดันให้เกิดความร่วมมือ ร่วมแรง ในการเตรียมความพร้อมให้กับสังคมไทยเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่อนุญาตให้ใช้กัญชาและกัญชงในการวิจัยและทางการแพทย์ได้ หวังว่าความร่วมมือนี้จะสามารถสร้างความเข้าใจและเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนคนไทยได้ตามวัตถุประสงค์” ดร.กนกวรรณ กล่าวในที่สุด

ทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงาน กศน.ได้ดำเนินการพัฒนาหลักสูตรรายวิชาเลือก ทช 33098 “กัญชาและกัญชงศึกษา เพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด” หนังสือเรียนสาระทักษะการดําเนินชีวิตฯ และ คู่มือการใช้หลักสูตรฯสำหรับการจัดการเรียนการสอนในสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อให้ความรู้และทักษะที่ถูกต้องในการใช้กัญชาและกัญชงเป็นยารักษาโรค รวมถึงสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมและติดอาวุธทางปัญญาให้แก่ผู้เรียน กศน. และประชาชนทั่วไป ได้รู้จริงและเข้าใจการใช้ รวมทั้งตระหนักรู้ถึงโทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม โดยกระทรวงศึกษาธิการ จะส่งเสริมการดำเนินงานของสำนักงาน กศน. ในการพัฒนาคุณภาพวิชาการ การวิจัย การพัฒนาหลักสูตร เกี่ยวกับกัญชาและกัญชงเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา โดยจะส่งเสริม สนับสนุน การจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับกัญชาและกัญชงเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาให้นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ตลอดจนส่งเสริมและอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรทางการศึกษาในเรื่องเกี่ยวกับกัญชาและกัญชง เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาและเพื่อนำไปขยายผลให้แก่ผู้เรียนและประชาชนทั่วไปได้ถูกต้อง รวมทั้งร่วมจัดกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือต่อเนื่องกับการดำเนินงาน

ด้านกระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยขณะนี้ ได้มีการปลูก ผลิต และสกัดนำมาเป็นยารักษาผู้ป่วยถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งการแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมที่จะบูรณาการความรู้ ประสบการณ์ถ่ายทอดให้กับภาคีเครือข่าย เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลที่จะนำไปพัฒนาด้านวิชาการ งานวิจัย และหลักสูตรต่างๆ เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะสนับสนุนการพัฒนาหลักสูตรในการจัดการเรียนการสอนของ (กศน.) เพื่อสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้กัญชาและกัญชงในการรักษาทางการแพทย์ ให้กับนักศึกษา ประชาชน โดยจะสนับสนุนข้อมูลทางการแพทย์เรื่องกัญชาและกัญชง สนับสนุนวิทยากรให้ความรู้ ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพวิชาการ งานวิจัย และพัฒนาหลักสูตรเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา รวมทั้งร่วมจัดกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง!!

ข่าว /ภาพ เอื้อมพร สุเมธาวัฒนะ กรรณิกา พันธ์คลอง!!

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link