ความคืบหน้ากรณี น.ส.ประกายดาว บรรจง ขอความช่วยเหลือ แม่ป่วยเป็นมะเร็งสมองขั้นที่4 ล่าสุดแม่น้องเสียชีวิตแล้ว…

อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รับแจ้งมีผู้ป่วยขอความช่วยเหลือภายในซอยประชาอุทิศ 15 เมื่อ เวลา 22.00 น. ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563

เมื่ออาสาสมัครไปถึงที่เกิดเหตุผู้ป่วยมีอาการหมดสติ แล้วจึงประสานต่อไปยังหน่วยกู้ชีพเอราวัณ ไม่นานต่อมาเมื่อกู้ชีพเอราวัณ มาถึงจึงรีบรุดให้การช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถแต่ไม่เป็นผล ผู้ป่วยเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเอกสารทราบชื่อ ต่อมา ชื่อ นางคำปั่น บรรจง อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นมารดาของน้องประกายดาว ที่เคยนำเสนอข่าวขอความช่วยเหลือ

วันนี้ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 11.00 น. น้อง ประกายดาว ได้เดินทางไปรับร่างของมารดาที่ นิติเวช ศิริราช เพื่อมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดประเสริฐสุธาวาส ซอยสุขสวัสดิ์ 27 ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด ของน้องประกายดาว และ น้องศักดิ์ชัย ซึ่งเป็นน้องชายของน้องประกายดาว น้องบวชเณรหน้าไฟให้แม่ด้วย ซึ่งภายในวันนี้ จะมีการจัดพิธีสวดพระอภิธรรม ขึ้นเพียง 1 คืน เท่านั้นแล้ว มีพิธีฌาปณกิจเลยภายในคืนเดียวกัน

บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความเศร้าโศกของน้องทั้ง 2 คน รวมทั้งชาวบ้านในชุมชนที่น้องอาศัยอยู่ รู้ข่าวต่างมาร่วมกันเเสดงความไว้อาลัยกันเป็นจำนวนมาก จากการสอบถามผู้มาร่วมงานต่างบอกกันว่า “น้องเป็นเด็กดีและน่ารักแล้วยังเป็นเด็กกตัญญูอีกด้วย ทุกคนในชุมชนต่างก็สงสารแล้วเห็นอกเห็นใจในการสูญเสียผู้เป็นแม่ของน้องจึงชักชวนกันมาช่วยงานและแสดงความเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ด้วย”

ส่วนตัวน้องประกายดาวเอง บอกว่า
“ตอนนี้ตนเองเสียใจมากกับการสูญเสียครั้งนี้ แล้วต่อแต่นี้จะดูแลน้องชายให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ อยากเห็นน้องชายได้เรียนหนังสือสูงๆและเป็นคนดีของสังคม แล้วถ้าเป็นไปได้น้องประกายดาวเองก็อยากจะกลับไปเรียนต่อเหมือนกันเพราะความรู้แค่ ม.3 คงจะไม่มีทางส่งน้องเรียนและหาเงินพอที่จะมาใช้จ่ายภายในครอบครัวได้ ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีเมื่อเสียผู้เป็นมารดาไปแล้วตนเองก็รู้สึกว่ามันเควงคว้างไปหมดเลย เสาหลักที่ยึดเหนี่ยวจิตใจไม่มีแล้ว สิ่งสำคัญคืออยากให้พ่อได้รับรู้ว่าตอนนี้แม่หนูเสียไปแล้ว อยากให้พ่อกลับมาหา เพราะตอนนี้เราไม่มีใครแล้ว หนูอยากบอกกับพ่อว่า เเม่เสียแล้วนะพ่อ หนูกับน้องลำบากมาก ถ้าพ่อเห็นข่าวนี้หรือได้ยินข่าวนี้อยากให้กลับมาหาหนูกับน้องบ้างอย่าทิ้งหนูไปแบบนี้”