เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 พ.ค. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.9 สั่งการให้ พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง.ผบก.น.9 พ.ต.อ.ณกฤช บุญศักดิ์ ผกก.กก.สส.บก.น.9 และ พ.ต.อ.ธีระ เถระพัฒน์ ผกก สน.ท่าข้าม นำกำลังฝ่ายสืบสวนเข้าจับกุม น.ส.สุมาลี หรือสุ แซ่เจียม อายุ 34 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ.279/2563 ลงวันที่ 21 พ.ค.63 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น พร้อมของ รถ จยย.ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ 1 คัน กุญแจรถ จยย. 1 ดอก บัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ 1 เล่ม ใบอนุญาตขับขี่ แบบ 5 ปี และบัตรประชาชน ระบุชื่อ นางเยาวลักษณ์ บุญถาวร จำนวนอย่างละ 1 ใบ โดยจับกุมตัวได้หน้าห้องเลขที่ 403 ชั้น 4 ภายในแฟลตไม่มีชื่อเลขที่ 20/29 หมู่ 8 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 16 เม.ย.น.ส.สุมาลี ผู้ต้องหารายนี้ได้แฝงตัวเข้าไปในโรงพยาบาลพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ก่อนลงมือลักทรัพย์กระเป๋าสะพายของพยาบาลไป 1 ใบ และ รถ จยย.ของพนักงานเวรเปล ไป 1 คัน ต่อมา น.ส.สุมาลี ได้อาศัยช่วงวิกฤตโควิด-19 ใช้ผ้าปิดปากถือสมุดบัญชีเงินฝากและบัตรประชาชนของพยาบาลผู้เสียหาย เข้าไปเบิกในธนาคารได้ไปจำนวน 1,200 บาท กระทั่ง พ.ต.ท.วิเชียร เพชรเสนา รอง ผกก.สส.บก.น.9 นำกำลังฝ่ายสืบสวนแกะรอยจากกล้องวงจรปิดและประสานพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ทำการขออนุมัติออกหมายจับติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้ในที่พักย่านอ้อมใหญ่ จ.นครปฐม
จากการสอบสวน น.ส.สุมาลี ยอมรับ เคยรับจ้างทั่วไปแต่ช่วงนี้ว่างงานไม่มีอาชีพเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 วันเกิดเหตุนั่งรถเมล์ฟรีจากห้องพักไปหาพ่อย่านพระราม 2 ตั้งแต่หัวค่ำแต่เผลอหลับต้องไปลงที่หน้าโรงพยาบาลพระราม 2 ตอนไปถึงเวลาประมาณ 21.00 น.จึงตัดสินใจยืมโทรศัพท์จากผู้ป่วยในโรงพยาบาลโทรหาแฟนหวังให้มารับ แต่แฟนก็มารับไม่ได้เพราะติดเคอร์ฟิว ตนจึงต้องหาที่พักผ่อนในโรงพยาบาล กระทั่งสบโอกาสเห็นโต๊ะวางทรัพย์สินของเจ้าหน้าในโรงพยาบาล จึงฉวยโอกาสหยิบกระเป๋าสะพายผู้หญิงมา 1 ใบ และกุญแจรถ จยย.ที่วางเอาไว้มาได้ 1 ดอก จากนั้นนำกุญแจไปลองไขที่รถ จยย.ซึ่งจอดอยู่ในจุดจอด จนสามารถสตาร์ทรถหลบหนีออกมาได้ในช่วงเช้ามืด
“ต่อมาตนได้ค้นเอาบัตรเอทีเอ็มจากในกระเป๋าสะพายไปลองกดเงินดู ปรากฏว่าเดารหัสไม่ถูก จึงตัดสินใจเอาผ้าปิดปากวัดดวงนำบัตรประชาชนกับสมุดบัญชีเงินฝากของผู้เสียหายไปเบิกที่เคาน์เตอร์ธนาคาร ได้เงิน 1,200 บาท จากนั้นได้พยายามขับรถ จยย.ของกลางกลับไปซุกซ่อนไว้ที่บ้านเกิดที่ จ.สุพรรณบุรี แต่ดวงซวยถูกสุนัขตัดหน้าชนหมาจนล้มคว่ำได้รับบาดเจ็บ เนื้อตัวถลอกปอกเปิก โชคดีที่ยังกัดฟันขับกลับมานอนพักรักษาตัวที่ห้องพักได้กระทั่งถูกตำรวจติดตามมาจับกุมตัวดังกล่าว” น.ส.สุมาลี กล่าว
เบื้องชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหาข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น แก่ น.ส.สุมาลี ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
