ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ การทารุณกรรมและล่วงละเมิดทางเพศเด็ก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศนั้น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณัฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ ผกก.2 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวจับกุม โดยมีรายละเอียด ดังนี้ กก.2 บก.สส.สตม. ได้รับข้อมูลจากรายงาน CyberTipline Report ซึ่งเป็นรายงานจากศูนย์ประสานงานช่วยเหลือ เด็กหายและเด็กถูกละเมิดแห่งชาติ (NCMEC) ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่ามีผู้ใช้มีการอัพโหลด รูปภาพและคลิปวีดีโอ ที่มีลักษณะเป็นสื่อลามกอนาจารเด็กอายุประมาณ 5 - 10 ปี จำนวนประมาณ 23 ไฟล์ เข้าไปในระบบอินเทอร์เน็ต และได้ประสานงานความร่วมมือมายัง กก.2 บก.สส.สตม. ให้ทำการสืบสวนหาแหล่งที่มาของข้อมูลลามกดังกล่าว จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้ต้องสงสัย เป็นชาว จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่สืบสวนจึงลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวในพื้นที่ จ.สกลนคร ตรวจสอบพบบ้านหลังหนึ่ง พบว่ามีภูมิประเทศและสภาพแวดล้อมเหมือนกับภาพถ่ายที่โพสต์ลงในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค และทราบว่าผู้ต้องสงสัยดังกล่าว คือนายกิตติพงษ์ฯ ซึ่งเข้ามาทำงานในพื้นที่ กทม. เจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่า นายกิตติพงษ์ฯ พักอาศัยอยู่ในห้องเช่าบริเวณเขตคลองสามวา กทม. จึงได้ยื่นคำร้องขอหมายค้นจากศาลอาญามีนบุรี ศาลอนุมัติตามคำร้อง เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.สตม. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. และคณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (TICAC) ได้นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้นห้องเช่าดังกล่าว เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน จากการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในความครอบครองของนายกิตติพงษ์ฯ จำนวน 8 เครื่อง และจากการตรวจสอบพบภาพลามกอนาจารเด็กผู้หญิงในโทรศัพท์มือถือของ นายกิตติพงษ์ฯ จำนวนหลายรายการ จากการสอบถาม นายกิตติพงษ์ฯ ให้การยอมรับว่าตนเป็นเจ้าของและเป็นผู้ใช้ ทวิตเตอร์ “ชื่อนี้ กูคิดตั้งนาน” และอยู่ในกลุ่มแอปพลิเคชั่นไลน์ซึ่งเป็นกลุ่มไลน์ที่ตั้งขึ้นเพื่อแบ่งปันภาพถ่ายคลิปลามกอนาจารเพื่อแลกกับการได้อยู่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าว ซึ่งต้องเสียค่าสมัคร ราคา 350 บาท เพื่อเข้ากลุ่มไลน์ และตนเป็นผู้นำภาพลามกอนาจารเด็กหญิงไปลง การกระทำของนายกิตติพงษ์ฯเป็นความผิด เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันจับกุมในข้อหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ ในทางเพศสำหรับตัวเองหรือผู้อื่น” ควบคุมตัวส่ง พงส.บก.ปคม. จากนั้นได้ประสานข้อมูลไปยัง พงส.สภ.โคกศรีสุพรรณ ซึ่งเป็นสถานที่ความผิดเกิด เพื่อดำเนินคดีกับนายกิตติพงษ์ฯ และศาลจังหวัดสกลนครได้ออกหมายจับนายกิตติพงษ์ฯ ในข้อหา“กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี” ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.สตม.ได้ร่วมกันจับกุมนายกิตติพงษ์ตามหมายจับ ส่ง พงส.สภ.โคกศรีสุพรรณ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และหากพิสูจน์ทราบว่านายกิตติพงษ์ฯ ได้นำเอาภาพสื่อลามกอนาจารของเด็กหญิงดังกล่าวไปแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายอาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ได้ ทั้งนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลต่อไป
