นครพนม ปปส. จู่โจมจับเครือข่ายยาเสพติดนครพนม พบบ้านหรูโรงน้ำดื่ม-ยึดทรัพย์ 20 ล้าน

นครพนม ปปส. จู่โจมจับเครือข่ายยาเสพติดนครพนม พบบ้านหรูโรงน้ำดื่ม-ยึดทรัพย์ 20 ล้าน
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นและลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) เปิดปฏิบัติการ “สยบไพรี 63/11 ฟ้าสางที่ฝั่งโขง” จู่โจมเข้าจับกุมนายสุขี ภาโสม วัย 59 ปี นางบุญจันทร์ ภาโสม อายุ 58 ปี และ น.ส.มณีรัตน์ ภาโสม อายุ 36 ปี ทั้งหมดเป็นพ่อ แม่ ลูก ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ลักษณะปลูกเป็นบ้าน 3 หลังอย่างหรูหราในพื้นที่เดียวกัน บ้านดงน้อย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการขยายผลจากการจับเครือข่ายยาเสพติด 2 คดี คดีแรกในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2562 ได้ผู้ต้องหา 4 คน ยาบ้า 4 หมื่นเม็ด และไอซ์ 2 กิโลกรัม อีกคดีจับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมยาบ้ากว่า 6 แสนเม็ด ซุกซ่อนไว้ในถังพลาสติกก่อนฝังดิน ภายในบ้านหลังหนึ่งที่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 16 ม.ค..2563 ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คดี ให้การซัดทอดว่ารับคำสั่งจากนายสุขีและพวก ให้ขนยาเสพติดไปส่งตามสถานที่ต่างๆ
ตำรวจจึงสืบสวนจนทราบว่านอกจากกลุ่มนายสุขี จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาคนส่งยาเสพติดจากนายทุนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ยังเป็นผู้ลำเลียงยาไปส่งตามสถานที่ต่างๆด้วยตัวเอง และมักจะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม พบเงินหมุนเวียนเครือข่ายนี้กว่า 20 ล้านบาท
นอกจากนี้ตำรวจยังพบว่าเดิมนายสุขีเคยมีหนี้สินจำนวนมาก แต่หลังปี 2560 เป็นต้นมา ครอบครัวนายสุขี เริ่มมีสถานะทางการเงินดีขึ้นจนน่าสงสัย ทั้งที่มีอาชีพเพียงเกษตรกร และกำลังสร้างโรงผลิตน้ำดื่มแต่ยังไม่ได้ขออนุญาต ทั้งยังถือครองที่ดินและสวนปาล์มกว่า 77 ไร่ ทั้งยังสามารถไถ่ถอนทรัพย์ที่เคยนำไปจำนองไว้กลับมา
ด้านนายสุขี ยืนยันไม่เกี่ยวข้องหรือรู้จักกับกลุ่มผู้ต้องหาที่เคยถูกจับคดียาเสพติดไปก่อนหน้านี้ และไม่เคยต้องโทษคดียาเสพติด แต่ยอมรับว่าเคยต้องคดีพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ขณะที่ น.ส.มณีรัตน์ ลูกสาวยืนยันไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด แต่มีอาชีพขายประกันชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนเงินลงทุนที่นำมาสร้างโรงกรองน้ำ เริ่มสร้างตั้งแต่เดือน ก.ย.2562 มูลค่าราว 1 ล้านบาท เป็นเงินที่ยืมมาจากลุง แต่ยังติดตั้งระบบไม่เเล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างการขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากก่อนหน้านี้ติดปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19
ส่วนรถบรรทุกก็เพิ่งซื้อมาเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อไว้ขนส่งสินค้า พร้อมยอมรับว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ครอบครัวเคยถูกตำรวจตรวจสอบสวนและซักประวัติเรื่องยาเสพติด ขณะเดินทางไปกรุงเทพฯ ก่อนจะสรุปผลการตรวจสอบว่าไม่พบความผิด จึงปล่อยตัวไป
อย่างไรก็ตามยังเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจค้นบ้าน และหลักฐานโดยละเอียด โดยปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหา 7 เป้าหมาย ในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม และ อ.บ้านแพง จ.นครพนม ซึ่งจะมีการแถลงผลการปฏิบัติการทั้งหมด โดย พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดในวันเดียวกันภาพ/ข่าว น็อต นคร เทพพนม รายงาน

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link