นนทบุรี ตร.วางแผนโบกเเท็กซี่ก่อเหตุขโมยหมูให้มาส่งที่โรงพัก ก่อนโชว์หมายจับ คอตกเข้าคุกทันที

นนทบุรี ตร.วางแผนโบกเเท็กซี่ก่อเหตุขโมยหมูให้มาส่งที่โรงพัก ก่อนโชว์หมายจับ คอตกเข้าคุกทันที
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 2 มิ.ย.63 ที่สภานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ธีรวัจน์ ขจรเกียรติภาส ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อัศม์เดช มุ่งลือ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ สว.สส. ร.ต.อ.สุนทร หงษ์โยธี รอง สว.สส. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายบุญมี สิมวงศ์ อายุ 39 ปี อาชีพขับรถเเท็กซี่ บ้านเลขที่ 55/1 หมู่ที่ 2 ต.กุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.246/2563 ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายประภาส กลัดพันธ์ อายุ 29 ปี ผู้เสียหาย อาชีพขายอาหารตามสั่ง บ้านเลขที่ 53/1 หมู่ที่. 5 ต.ซับพุดทรา อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ได้เดินทางเข้าเเจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ กรณีมีคนร้ายเป็นชาย 2 ราย ขับรถเเท็กซี่ สีชมพู ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ก่อเหตุขโมย เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 800 บาท หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนทราบหมายเลขทะเบียนรถแท็กซี่และทราบชื่อผู้ก่อเหตุ จนนำไปสู่การจับกุม
ขณะเดียวกันนายบุญมี สิมวงศ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ก่อนหน้านี้ตนมีรายได้จากการขับรถแท็กซี่หักลบค่าใช้จ่ายแล้วได้วันละ 400-500 บาท พอเจอพิษโควิด-19 ทำให้รายได้ลดน้อยลง ทำให้ไม่มีเงินพอที่จะซื้อกับข้าวไปให้เเม่เเละพี่สาว จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุ ซึ่งเนื้อหมูที่ขโขมยไปก็นำไปทำกับข้าวให้ครอบครัวกินเพื่อประทังชีวิต โดยเพิ่งจะก่อเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรก
ทางด้าน พ.ต.ท.อัศม์เดช มุ่งลือ รอง ผกก.สส. สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลจนทราบชื่อผู้ต้องหาและอู่รถที่ผู้ต้องหาไปเช่า จากนั้นจึงนำกำลังไปเฝ้าอยู่ที่อู่รถแท็กซี่ที่บริเวณ ซอยอินทามาระ 29 แยก 1 ต่อมาผู้ต้องหาได้ขับรถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน ทส 2110 กรุงเทพมหานคร คันที่ใช้ในการก่อเหตุเข้ามาที่อู่เพื่อที่จะจ่ายค่าเช่ารถ จึงได้ทำการเรียกให้มาส่งที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ แล้วกำลังส่วนหนึ่งก็ขับรถตามมา เมื่อมาถึงจุดหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นั่งมาในรถได้เเสดงตัว พร้อมเเสดงหมายจับ ตอนนั้นผู้ต้องหายังอยู่ในอาการมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้ขัดขืนเเต่อย่างใด
พ.ต.ท.อัศม์เดช ยังกล่าวต่ออีกว่า ไม่ว่ามูลค่าความเสียหายที่ผู้ก่อเหตุกระทำ จะมากหรือน้อย ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะถือว่าเป็นความเดือดร้อนของประชาชนเหมือนกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนทุกคดีอย่างอย่างตรงไปตรงมาและเท่าเทียมกัน จนนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในที่สุด ส่วนคดีนี้เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไปสาโรจน์ สว่างศรี / นนทบุรี

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link