โจรมารยาทดี ยกมือไหว้ก่อนใช้ปืน 11 มม. ชิงรถจักรยานยนต์ก่อนหลบหนี

วันที่ 14 มิถุนายน 2563 เวลา 19.45 น. ร.ต.ท.ศิริชัย เที่ยงพูนวงค์ รอง สว.สอบสวน สน.ท่าข้าม ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ว่ามีประชาชนขอความช่วยเหลือเนื่องจากโดนจี้ชิงรถจักรยานยนต์ ภายในซอยพุทธบูชา 36 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมชุดสืบสวน และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่ทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัคร มาถึงที่เกิดเหตุพบกับผู้เสียหายเป็นชาย 1 ราย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ยืนรอให้การกับเจ้าที่ตำรวจด้วยท่าทางตกใจอยู่ในบริเวณอู่รถประจำทาง ภายในซอยพุทธบูชา 36 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ทราบชื่อต่อมาชื่อ นายสิทธิโชค พลามิตร อายุ 30 ปี อาชีพขับรถแกร๊บฟูด ส่งอาหาร ถูกชายไม่ทราบชื่อพร้อมอาวุธปืนจี้ชิงรถไปต่อหน้าต่อตา แล้วตนเองก็อยู่ในอาการตกใจกลัวอย่างมาก พร้อมกับบอกเล่ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า
“ผมขี่รถของพ่อออกมาเปลี่ยนแบตเตอรี่รถ ที่ร้านซ่อมรถ ภายใน ซอยอนามัยงามเจริญ 27 พอขับถึงประมาณโลตัส ก็มีรถกระบะ 4 ประตู ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น จอดเทียบข้าง แล้วมีผู้ชายลงมาจากประตูรถมายกมือไหว้แล้วบอกว่า ‘พี่ครับสวัสดีครับ ช่วยไปส่งผมหน่อยครับ’ เราเห็นสภาพเหมือนเป็นคนเร่ร่อน ด้วยความที่เราเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่แล้ว เลยบอกได้ครับ ไปส่งที่ไหน เค้าก็บอก กลับบ้านตรงครัวมะขามเฒ่าครับ ก็ขึ้นรถมา ออกมาได้สักพัก ประมาณ 100 เมตร ก็เริ่มตีที่ท้ายทอยผม เร่งว่า ‘เฮ้ย!!ขับเร็วๆดิ กูรีบ’ ผมก็คิด ‘เฮ้ย! มันไม่ใช่ละ’ ผมเลยจอดรถแล้วลงมาเรียกค้นตัวดูว่าพกอะไรมาป่าวเนี่ย เริ่มผิดสังเกตุแล้วคนร้ายก็ควักปืนออกมา ผมเห็นว่าเป็นปืน 11 มม. ผมก็พอรู้เรื่องปืนเหมือนกัน ทีนี้คนร้ายก็บอกให้ขับรถต่อไป โดยใช้ปืนนั้นจี้ที่เอวข้างหลังผมอยู่ ขับไปเรื่อยๆ จนเลยครัวมะขามเฒ่า ที่บอกไว้ตอนแรก ผมก็ถามอีกว่า พี่จะให้ผมไปส่งที่ไหน มันเลยมาแล้วนะ คนร้ายก็บอกต่อว่า ขับต่อไป ยังไม่ถึงบ้าน จะกลับบ้าน จนขับเข้ามาในซอยพุทธบูชา 36 คนร้ายบอก ปวดฉี่ให้จอดหาที่ฉี่ก่อน ก็เลยจอดบนสะพานระหว่างที่ลงรถ คนร้ายก็ส่งถุงเอกสารที่ถือมาด้วย จากการสังเกตุในถุงมีเล่มรถสีเขียว และกระดาษเอกสารเป็นปึก ให้ใส่ไว้ใต้เบาะรถ ผมก็เปิดเบาะใส่ พอจังหวะที่คนร้ายหันหลังจะฉี่ ผมก็ได้จังหวะวิ่งหนีออกมาจากจุดนั้น เพราะผมมือเปล่า ไม่สู้หรอก คนร้ายมีปืน ถ้าขืนยังขับไปต่อ ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นอีก ผมต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน จึงวิ่งแบบไม่คิดชีวิต วิ่งเข้าไปในอู่รถประจำทางสาย 75 วิ่งมาขอความช่วยเหลือจากคนในนั้น พอดี มีน้อง จอด รถจยย.อยู่เลยไปขอความช่วยเหลือช่วยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้หน่อย และอีกคันนึงก็ช่วยวิ่งตามหาดูรถของตนว่ายังจอดอยู่ที่เดิมมั้ย ขับตามเส้นทางไปก็ไม่พบแล้ว จึงโทรบอกพ่อกับแม่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ราษฎร์บูรณะตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วพบว่าเหตุเกิดขึ้นที่พื้นที่ของ สน.ท่าข้าม จึงประสานรถสายตรวจของสน.ท่าข้ามมารับผู้เสียหายไปสืบสวนสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อจะสืบหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี จากกล้องวงจรปิด ที่หน้าโลตัส หรือ ระหว่างเส้นทางที่ขับขี่ผ่านมาจนถึงจุดสุดท้ายที่ทิ้งรถแล้ววิ่งหนีมา

จากการที่พูดคุยกับผู้ที่ช่วยเหลือประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ ชื่อนายเฉลิมพล ไพศาลสาคร อายุ 30 ปี ได้ความว่า ” ผมจอดรถอยู่ในบริเวณอู่รถประจำทางสาย 75 แล้วก็มีคนวิ่งมาอย่างเร็วมาก วิ่งมาบอกว่า ‘พี่ครับช่วยผมด้วย ผมโดนจี้เอารถ มอไซค์ผมไป ผมก็ให้รถอีกคัน ช่วยกันขับตามหาว่าไปทางไหน ยังอยู่ที่จอดบนสะพานมั้ย แต่ก็ไม่พบแล้ว และไม่ทราบเส้นทางว่าไปทางไหน ส่วนผมก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบครับ”

ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ จะเร่งสืบหาตัวผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินการตามกฎหมายให้ได้ คาดว่าผู้ก่อเหตุครั้งนี้ไม่น่าจะหลบหนีไปได้ไกลคงใช้เวลาไม่นานก็น่าจะจับกุมมาดำเนินคดีได้ในเร็ววันนี้แน่นอน

ทีมข่าวฝั่งธน

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link