จับแก๊งปลอมบัตรประชาชน หลอกขายเหยื่อคนต่างด้าว สูญเงินนับแสน

จับแก๊งปลอมบัตรประชาชน หลอกขายเหยื่อคนต่างด้าว สูญเงินนับแสนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช ผบก.ตม 5 , พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5 ร่วมแถลงข่าว ดังนี้
งานสืบสวนปราบปราบ ด่าน ตม.เชียงแสน ได้ร่วมกับ สภ.เชียงแสน ตรวจค้นและได้จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คนคือ 1) นายบุญมา อายุ 55 ปี 2) นายสุพจน์ อายุ 51 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม และร่วมกันปลอมบัตร หรือใบรับหรือใบแทน (พ.ร.บ.บัตรประชาชน พ.ศ.2526)” จับกุมได้ในพื้นที่เทศบาลเวียงเชียงแสน ม.2 ต.เวียง อ.เชียงแสน จว.เชียงราย และผู้ต้องหารายที่ 1 ได้นำตรวจค้นบ้านใน อ.แม่จัน จว.เชียงราย พบเอกสารประกอบการกระทำผิดจำนวนมาก จึงได้บันทึกตรวจยึดจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลาง ส่ง พงส.สภ.เชียงแสน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปพฤติการณ์แห่งคดี ผู้ต้องหาทั้งสองรายมีพฤติการณ์ต้มตุ๋นหลอกเหยื่อ (นางสุภาณี) ซึ่งอ้างว่าสามารถช่วยเหลือทำบัตรประจำตัวประชาชนได้ และนัดเหยื่อมาหลอกทำบัตร ณ ที่ว่าการอำเภอเชียงแสน โดยแบ่งหน้าที่กันทำ กล่าวคือ นายบุญมา มีพฤติการณ์ทำหน้าที่เป็นนายหน้าติดต่อตกลงรับเงินค่าดำเนินการรายละ 150,000 บาท โดยจะพาเหยื่อที่ตกลงกันไว้มาที่ว่าการอำเภอเชียงแสน เพื่อหลอกเหยื่อว่าสามารถพามาทำบัตรได้ ส่วนนายสุพจน์ มีพฤติการณ์ใช้ตำแหน่งหน้าที่สารวัตรกำนัน ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จว.เชียงราย หลอกให้เหยื่อเชื่อใจ โดยจะทำหน้าที่นัดเหยื่อมาพิมพ์ลายนิ้วมือ แล้วนัดมารับบัตรที่ปลอมแปลงเสร็จแล้วในภายหลัง
จากการขยายผลตรวจค้นบ้านนายบุญมา (ผู้ต้องหาที่ 1) พบสำเนาเอกสารแบบพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อยื่นขอทำบัตรประชาชน/สำเนาเอกสารบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรหัว 0)/สำเนาทะเบียนบ้านของบุคคลอื่นจำนวนมาก
การสอบปากคำนายบุญมา ให้การว่าได้มีการติดต่อสั่งปลอมแปลงทำบัตรประชาชนจากกลุ่มขบวนการ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จว.กาญจนบุรี โดยจะถ่ายภาพเหยื่อแล้วส่งภาพถ่ายไปยังบัญชีผู้ใช้ชื่อ Somchit Chanagm ทางแอพพลิเคชั่น แมสเซนเจอร์ (Messenger) และเมื่อได้บัตรแล้วจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากาญจนบุรี ระบุชื่อ นายสมจิตร์ฯ เป็นเจ้าของบัญชี เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท
ในส่วนของผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จว.กาญจนบุรี งานสืบสวนฯ ด่าน ตม.เชียงแสน จะได้ร่วมกันประสานขอหมายค้นและร่วมกันติดตามจับกุมขยายผลต่อไป
นอกจากนี้ อำเภอเชียงแสน ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าของบัตร 2 ราย คือ น.ส.สุภาณี และ น.ส.คำ
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประเทศเพื่อนบ้าน ให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดกฎหมาย การก่อเหตุอันตรายใด ๆ อันกระทบต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ กรุณาแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพ ฯ 10120 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link