มท.3 ร่วมประชุมแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคในเขตเมืองบุรีรัมย์ พร้อมเดินหน้าลุยแก้แล้งซ้ำซากในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์

มท.3 ร่วมประชุมแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคในเขตเมืองบุรีรัมย์ พร้อมเดินหน้าลุยแก้แล้งซ้ำซากในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์วานนี้ (19 มิ.ย.63) ที่โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ.บุรีรัมย์ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) พร้อมด้วยคณะทำงานฯ เข้าร่วมประชุมแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคในเขตเมืองบุรีรัมย์ โดยมีนายรัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายกฤษฎา ศังขมณี รักษาการแทนผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของจังหวัดบุรีรัมย์นายทรงศักดิ์ ทองศรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ประสบภาวะความแห้งแล้งเนื่องจากฝนที่ตกในพื้นที่มีปริมาณน้อย และภาวะฝนทิ้งช่วงในปี 2561-2562 (2 ปีต่อเนื่อง) ทำให้จังหวัดบุรีรัมย์มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำน้อยกว่าเกณฑ์ปกติค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำที่ใช้ผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนในเขตเมืองบุรีรัมย์ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมเหลือเพียง 13,000 ลูกบาศก์เมตร (ข้อมูล ณ วันที่ 18 มิ.ย. 63) ทำให้ไม่สามารถนำน้ำดิบมาผลิตน้ำประปาได้อย่างเพียงพอและทั่วถึง ซึ่งปัจจุบันการประปาส่วนภูมิภาค สาขาบุรีรัมย์ ร่วมกับโครงการชลประทานบุรีรัมย์ ได้สูบน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย อำเภอกระสัง มายังอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ วันละ 20,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อผลิตน้ำประปา แต่ยังไม่เพียงพอ และทั่วถึงทุกครัวเรือน การประปาส่วนภูมิภาค สาขาบุรีรัมย์ จึงได้ปรับลดแรงดันการจ่ายน้ำตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป ส่งผลให้ระบบผลิตน้ำประปาไม่สามารถผลิตน้ำประปาได้เต็มกำลังการผลิตปกติ จึงเป็นเหตุให้ปริมาณน้ำประปาที่ผลิตได้และสูบจ่ายไปยังบ้านผู้ใช้น้ำ มีปริมาณลดน้อยลง ทำให้เกิดปัญหาน้ำประปาไหลอ่อนหรือถึงกับไม่ไหลเป็นบางพื้นที่และมีความขุ่นสูงมาก ประชาชนบางส่วนจึงได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคเป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคในเขตเมืองบุรีรัมย์ ตลอดจนการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณีน้ำประปาไหลอ่อน หรือไม่ไหลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ทั่วถึง ทันต่อสถานการณ์ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงได้จัดการประชุมโดยบูรณาการส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การประปาส่วนภูมิภาค และภาคเอกชน เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคในเขตเมืองบุรีรัมย์ และให้ความช่วยเหลือให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและทันท่วงทีต่อไปจากนั้น นายทรงศักดิ์ ทองศรี พร้อมด้วยนายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายกฤษฎา ศังขมณี รักษาการแทนผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และคณะทำงานฯ ลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก อ่างเก็บน้ำห้วยตลาด และอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการขาดน้ำอุปโภค บริโภค และเกษตรกรรม ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่เมืองบุรีรัมย์ ประสบปัญหาการขาดน้ำอุปโภค บริโภค เนื่องจากเกิดภัยแล้งต่อเนื่อง ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ใช้สำหรับผลิตน้ำประปา มีปริมาณคงเหลือน้อยมากจนไม่สามารถนำมาผลิตน้ำประปาได้ และที่ผ่านมาจังหวัดบุรีรัมย์ได้พยายามหาน้ำจากแหล่งข้างเคียง และจังหวัดข้างเคียงมาเติม แต่ก็ไม่เพียงพอ การประปาส่วนภูมิภาคสาขาบุรีรัมย์ ร่วมกับโครงการชลประทานจังหวัดบุรีรัมย์ ได้แก้ไขปัญหาโดยการวางท่อส่งน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย ต.สองชั้น อ.กระสัง ไปผลิตน้ำประปาชั่วคราวให้ผ่านพ้นวิกฤตการขาดน้ำอุปโภค บริโภคในพื้นที่อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ระยะทาง 19.5 กิโลเมตร สามารถสูบส่งเข้าระบบผลิตน้ำประปาได้ประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ซึ่งแผนระยะยาว ขณะนี้ โครงการชลประทานบุรีรัมย์ได้ดำเนินการก่อสร้างเส้นทางผันน้ำจากลำปะเทียในช่วงฤดูน้ำหลากระยะทาง 38 กิโลเมตร ไปเติมอ่างเก็บน้ำสนามบิน อ.ประโคนชัย อ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก อ.เมืองบุรีรัมย์ แก้มลิงตามเส้นทางน้ำผ่านสำหรับผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน ตลอดทั้งช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่เพาะปลูกได้มากกว่า 5,000 ไร่ การดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จโดยเฉลี่ยร้อยละ 85 เมื่อถึงฤดูน้ำหลากจะสามารถผันน้ำจากเส้นทางผันน้ำจาก ลำมาศ ลำปะเทีย และอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย ไปกักเก็บที่อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ตลอดทั้งช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูก ประปาหมู่บ้านในเส้นทางผันน้ำได้อีกด้วยนายทรงศักดิ์ ทองศรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่และได้หารือกับส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกในปีหน้า และแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยต้องเพิ่มปริมาณความจุการกักเก็บน้ำ อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก อ่างเก็บน้ำห้วยตลาดให้มากขึ้น ให้เพียงพอการผลิตน้ำประปา และภาคการเกษตร /ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจและจัดทำเส้นทางไหลของน้ำรอบอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก อ่างเก็บน้ำห้วยตลาดในช่วงฤดูฝน จะได้มีน้ำกักเก็บเพิ่มขึ้น ส่วนการแก้ไขปัญหาการขาดน้ำในปีนี้ ได้ให้ส่วนที่เกี่ยวข้องไปสำรวจและเจาะน้ำบาดาล ให้ได้ปริมาณน้ำ 10,000-20,000 ลูกบาศก์เมตร สมทบกับน้ำที่อ่างเก็บห้วยสวายให้เพียงพอผลิตน้ำประปา พร้อมทั้งได้มอบหมายให้การประปาส่วนภูมิภาคเร่งรัดดำเนินการในเรื่องการผลิตน้ำประปาเคลื่อนที่ (Mobile Plant) ที่บ่อหินของภาคเอกชน ส่งเข้าระบบจ่ายน้ำประปา อย่างไรก็ตามต้องดำเนินการขุดลอกเพิ่มปริมาณกักเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง ให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งต้องเร่งบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า รวมถึงแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป#ก้าวไปด้วยกัน
#ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link