ปทุมธานี อดีตประธานชุมชนเคหะรังสิตคลอง12 เรียกร้องให้อบต.บึงคอไหชี้แจงชาวบ้านปัญหาฝาปิดท่ออย่างตรงไปตรงมา

ปทุมธานี อดีตประธานชุมชนเคหะรังสิตคลอง12 เรียกร้องให้อบต.บึงคอไหชี้แจงชาวบ้านปัญหาฝาปิดท่ออย่างตรงไปตรงมา
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 ก.ค.2563 จากกรณีฝาปิดท่อระบายน้ำของชุมชนเคหะรังสิต คลอง12 ต.บึงคอไห อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้มีการเผยแพร่ในสังคมออนไลน์และทางทีวีโทรทัศน์หลายช่องนั้น และเป็นที่สนใจของสังคมจำนวนมาก ว่ามีการทุจริตกันจริงหรือที่นำฝาปิดท่อระบายน้ำทิ้ง ขนาด1×1 เมตร หนา15 ซม กว่า 100 ฝา ที่ทิ้งไว้ในพงหญ้าของชุมชนว่าเป็นของหน่วยงานใดที่เป็นเจ้าของ และมีการจัดซื้อจัดจ้างอย่างไร เมื่อผิดสเปคแล้วหน่วยงานใดเป็นผู้ควบคุมดูแล และหน่วยงานใดจะรับผิดชอบกับงบประมาณที่สูญเสียไป
นางจีรวรรณ ใจกล้า อายุ 55 ปี อดีตประธานชุมชนเคหะรังสิต คลอง12 กล่าวว่า ระหว่างปี พ.ศ.2548-พ.ศ.2559 ในระหว่างที่เป็นประธานชุมชนหมู่บ้านนั้นมีประชาชนอาศัย 300 กว่าหลังคาเรือน ซึ่งชุมชนเคหะรังสิตแห่งนี้อยู่ในพื้น อบต.บึงคอให ซึ่งไม่ได้รับการดูแลจากหน่วยงานราชการในพื้นที่แต่อย่างใด ในด้านสาธารณูปโภคจัดสรรที่ดิน เนื่องจากหมู่บ้านชุมชนเคหะรังสิต คลอง 12 นี้ ได้อยู่ในขั้นตอนของการพิทักษ์ทรัพย์ของกรมบังคับคดีบางส่วนและอีกหนึ่งส่วนเป็นของประชาชน ตนเองและคณะกรรมการหมูบ้านในชุดนั้นจึงเดินทางไปร้องเรียนยังรัฐสภา เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม นานเกือบ 2 ปี จึงได้เงินค้ำประกันจัดทำสาธารณูปโภคจัดสรรที่ดิน ของบริษัท อาร์.เอส.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด จากกรมที่ดินมาจำนวนเงิน 3,220,000 บาท ที่เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรได้วางค้ำประกันไว้ที่กรมที่ดิน เพื่อนำมาพัฒนาหมู่บ้าน สำนักงานรัฐสภาจึงมีคำสั่งว่า ให้ อบต.บึงคอไห เป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการทั้งหมดรวมไปถึงเงินค้ำประกันที่ได้จากกรมที่ดินนี้ด้วย ในฐานะท้องถิ่น โดยเงินส่วนหนึ่งได้นำมาจัดทำถนนทั้งหมู่บ้านและอีกส่วนนำมาทำฝาปิดท่อระบายน้ำทิ้ง โดยวิธีการจัดซื้อจัดจ้างของทาง อบต.บึงคอไห ทั้งหมดตามระบบราชการ ส่วนคณะกรรมการหมู่บ้านมีหน้าที่เพียงตรวจสอบว่าทำถูกต้องหรือไม่เท่านั้น แต่สิ่งที่เห็นนั้นคือฝาปิดท่อระบายน้ำทำผิดแบบ จำนวนเกือบ 140 ฝา ที่กองเรียงรายในพงหญ้านั้นและได้มีการจัดทำครั้งที่ 2 มาแทนแต่ขนาดและคุณภาพนั้นบางเพราะเหล็กในโครงสร้างของฝาปิดท่อระบายน้ำนั้นไม่ได้มาตรฐาน จึงทำให้แตก และเกิดอุบัติเหตุรถตกท่อ ในขณะนั้นคณะกรรมการหมู่บ้านและชาวบ้านต้องจำยอมใช้งานฝาท่อที่แตกและไม่ได้มาตรฐาน

เคยไปติดต่อยืนคำร้องมาหลายครั้งติดต่อกันมาหลายปีได้คำตอบอย่างเดียวว่ารองบประมาณ ส่วนจะเป็นความผิดของใครนั้นให้พี่น้องประชาชนดูเอาเองว่าขั้นตอนผ่านหน่วยงานใดและหน่วยงานใดที่ควบคุมดูแลจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้
นางจีรวรรณ ใจกล้า เผยต่อว่าเงินงบประมาณที่สูญเสียไปในครั้งนั้นเป็นงบประมาณ ที่ได้โดยชอบธรรมจากกรมที่ดินคืนให้นำมาพัฒนาชุมชนด้านสาธารณูปโภคจะต้องเป็นกรรมสิทธ์ของผู้รับเหมาด้วยหรือ ทั้ง ๆ ที่ทำมาผิดสเปคและแถมยังเป็นงบประมาณที่ชาวบ้านยืนเรื่องผ่านวุฒิสภาจึงได้งบประมาณนี้มา แต่ให้ อบต.บึงคอไห บริหารจัดการเท่านั้น ซึ่งยากให้ คณะผู้บริหาร อบต.บึงคอไห ชี้แจงให้ชาวบ้านรับข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา ส่วนที่ประชาชนที่ได้รับข่าวสารว่ากรรมการชุดเก่าในขณะที่ตอนดำรงตำแหน่งอยู่นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่ ให้ประชาชนที่สงสัยให้เข้าไปตรวจสอบระบบการจัดซื้อจัดจ้างของ อบต.บึงคอไห ได้เลยว่าการมีการทำระบบการจัดซื้อจัดจ้างอย่างไร ส่วนการที่มีคำสั่งจากสำนักงานรัฐสภาว่าถ่ายโอนสาธารณูปโภคของชุมชนให้ทาง อบต.บึงคอไห เป็นผู้ดูแลนั้น ทุกวันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีการพัฒนาหรือการเหลียวแลจากหน่วยงานของ อบต.ในพื้นแต่อย่างใด
ส่วน นายยงยุทธ หว่างปัญญา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงคอไห กล่าวว่า กรณีที่ไม่ปิดฝาปากท่อระบายน้ำภายในชุมชนเคหะรังสิตคลอง 12 และมีฝาปิดปากท่อระบายน้ำที่กองอยู่ ความจริงแล้วเป็นงานของผู้รับเหมา ที่เขาได้ทำผิดแบบ ทางคณะกรรมการและผู้ควบคุมงานก็ไม่ได้เซ็นต์รับ ผู้รับเหมาจึงได้กองฝาท่อที่ไม่ได้ขนาดไว้ตามที่มีข่าวนำเสนอไปแล้ว ทั้งนี้ปัญหาไม่มีฝานั้นเป็นปัญหานานกว่า 10 ปีแล้ว จากที่มีผู้รับเหมาทำผิดแบบจึงได้ทำขึ้นมาใหม่ โดยมีประธานคนเก่า และคณะกรรมการตรวจรับภายในหมู่บ้านเองร่วมอยู่ด้วย

การทำฝาปิดท่อระบายน้ำภายในชุมชนเคหะรังสิต คลอง12 นั้นเราไม่ได้ให้โยธาฯของอบต.ทำ แต่ให้โยธาฯจังหวัดมาดำเนินการ ซึ่งฝาปิดท่อระบายน้ำภายในเคหะฯ มีประมาณ 300 ฝาท่อ ช่างที่มาสำรวจเขาได้วัดเพียง 5- 10 ท่อ และได้ประมาณการไป กรณีแบบนี้เนื่องจากหมู่บ้านที่สร้างมาโดยไม่ได้มาตรฐาน ฝาปิดท่อแต่ละท่อจึงไม่เท่ากัน แม้แต่บ้านทีสร้างขึ้นมาเสาเข็มก็ไม่ได้มาตรฐาน ขณะนี้อยู่ระหว่างจะประสานโยธาฯจังหวัดให้มาตราสอบทั้งหมู่บ้านเลย
ที่ผ่านมาทาง อบต.ได้ดูแลในเบื้องต้น ทั้งนี้การแกไขปัญหาทั้งระบบ ได้แก่ ฝาปิดท่อระบายน้ำ และระบบสาธารณูปโภคภายในเคหะฯนี้ใช้งบประมาณถึง 30 ล้านบาท ทางอบต.ได้ทำเรื่องของบประมาณไปทาง อบจ. ให้มาช่วย เนื่องจาก อบต.มีงบประมาณใน 1 ปีเพียง 50-60 ล้านบาท หากนำงบมาช่วยแค่ชุมชนเคหะฯนี้ 30 ล้านบาท การที่จะพัฒนาในพื้นที่อื่น ๆ ก็จะไม่ได้ ส่วนเงินค้ำประกันจัดทำสาธารณูปโภคจัดสรรที่ดินเราทำได้เพียงซ่อมแซมลาดยางถนนทรุดและชำรุดและสาธารณูปโภคภายในชุมชนเคหะฯ ที่ผ่านมาผมทำงานอย่างถูกต้องหากผมทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องผมจะกล้าพูดกับเหล่าสมาชิดสภา อบต. ผมทำงานบริหารด้วยความบริสุทธิ์ใจ.

อนันต์ปทุมธานี

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link