เดือดเพื่อนบ้านทะเลาะกันเรื่องหมา อีกฝ่ายยกครัวพ่อแม่ลูก 3 คนมาใช้รองเท้าตบหน้าและต่อยปาก เจอคุณยายวัย 81 ปี ใช้มีดปอกผลไม้แทงสวนไปหญิงวัย 58 ปี บาดเจ็บ 1 คน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเรื่องทะเลาะกันเรื่องหมามาแล้วครั้งหนึ่งและเหม็นขี้หน้ากันมาตลอด
เมื่อช่วง 1 ทุ่มครึ่งของวันที่ 9 ก.ค.63ที่ผ่านมาตำรวจ สภ.หาดใหญ่ รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันขึ้นภายในซอย 15 ถนนราษฎร์อุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่
หลังจากที่ทาง ร.ต.อ.วิจัย นามแก้ว รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.หาดใหญ่พร้อมตรวจสายตรวจไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่าเหตุการณ์นี้ขึ้นกลางถนนระหว่างบ้านเลขที่ 1/7 กับบ้านเลขที่ 14 และคู่กรณีก็เป็นเจ้าของบ้านทั้งสองหลัง
โดยมีผู้ถูกแทงด้วยมีดได้รับบาดเจ็บ 1 คน ยังทราบเพียงชื่อเล่นว่า นางอ้อย อายุประมาณ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ถูกแทงด้วยมีดเข้าที่แขนขวาได้รับบาดเจ็บ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ท่งเซียเซี้ยงตึ้ง)หาดใหญ่ได้มาช่วยปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ และบนถนนยังมีหยดเลือดหยดอยู่ พร้อมกับมีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 6 นิ้วตกอยู่ด้วย
ส่วนคนแทงชื่อว่า นางสโณ ปัญจารัตน์ อายุ 81 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/7 ยังยืนอยู่หน้าบ้านไม่ได้หลบหนีไปไหนยังรอพบตำรวจอยู่ในชุดนอนและอยู่ในอาการโมโห โดยได้รับบาดเจ็บถูกชกเข้าที่ปากจนบวม ตำรวจจึงเข้าไปสอบถามเหตุการณ์และนำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นางสโณ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เล่าให้ฟังว่าตอนเกิดเหตุได้นำสุนัข ออกมาฉี่ที่หน้าบ้าน พอดีกับที่ นางอ้อย ซึ่งอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามเดินจูงสุนัขผ่านมา ทำให้สุนัขของตนเห่าใส่สุนัขของ นางอ้อย และสุนัขของนางอ้อย และสุนัขของนางอ้อยวิ่งมากัดสุนัขตน ทำให้นางอ้อยเดินมาตีหมาตน จึงเกิดทะเลาะกันโดย นางอ้อยได้ถอดรองเท้ามาตีหน้า จากนั้นสามีและลูกชายก็ออกมาช่วยโดยสามีได้ชกหน้าตนโดยมีลูกชายช่วยจับตนไว้ ตนจึงใช้มีดที่ถือมาปลูกต้นไม้แทงสวนไป 1 ครั้งไม่รู้ว่าโดนตรงไหนเพราะตนไม่มีใครอยู่กับพี่สาว อายุ 91ปีกันสองคน ส่วนอีกฝ่ายมี 3 คน
นางสโณ กล่าวว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนกับเพื่อนบ้านรายนี้ทะเลาะกันเรื่องหมา เพราะราว 2 เดือนก่อนก็ทะเลาะกันครั้งหนึ่งแล้วเพราะสุนัขตนเห่าและนางอ้อย เอาน้ำมาสาดและจะถอดรองเท้ามาตบหน้าครั้งหนึ่งแล้วแต่สามีห้ามไว้ แต่ครั้งนี้กลับถูกรุมจึงต้องใช้มีดเสียบสวนไปอย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ตำรวจได้แจ้งข้อหา นางสโณ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย และจะเชิญคู่กรณีมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่งหากเข้าข่ายร่วมกันทำร้ายร่างกายก็จะแจ้งข้อหาเช่นกัน
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
