กทม.เดินหน้าลดขยะพลาสติกจากฟู้ดดิลิเวอรี่

กทม.เดินหน้าลดขยะพลาสติกจากฟู้ดดิลิเวอรี่
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ปลายปี 62 – มิ.ย. 63 พื้นที่กรุงเทพมหานคร มีปริมาณขยะเกิดขึ้น เฉลี่ย 9,717 ตันต่อวัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกับปีที่ผ่านมา 847 ตันต่อวัน หรือ 8% (เดิม 10,564 ตันต่อวัน) เนื่องจากการประกอบกิจการต่าง ๆ รวมถึงธุรกิจการท่องเที่ยวหยุดชะงักในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี การส่งเสริมการทำงานที่บ้าน ส่งผลให้ปริมาณขยะพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารแบบดิลิเวอรี่ที่มากขึ้น โดยช่วงเดือนเมษายน 2563 สัดส่วนของขยะพลาสติกเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็น 36.94% หรือคิดเป็น 3,453 ตันต่อวัน จากขยะทั้งหมด 9,347 ตันต่อวัน ซึ่งสูงกว่าสัดส่วนพลาสติกในภาวะปกติเมื่อปี 2562 ซึ่งมีสัดส่วน 20.03%
สำหรับแนวโน้มจำนวนขยะพลาสติกได้ลดลงหลังจากมีมาตรการผ่อนปรน โดยในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สัดส่วนขยะที่ทำมาจากพลาสติกลดลงเหลือ 20.93% จากปริมาณขยะทั้งหมด 9,194 โดยแบ่งเป็นพลาสติกที่ใช้ประโยชน์ได้ 22% และใช้ประโยชน์ไม่ได้ 78% และช่วงเดือนมิถุนายนสัดส่วนขยะพลาสติกลดลงเหลือ 19.64% จากปริมาณขยะทั้งหมด 9,286 ตันต่อวัน โดยแบ่งเป็นพลาสติกที่ใช้ประโยชน์ได้ 21% และใช้ประโยชน์ไม่ได้ 79% ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการลดการใช้พลาสติกตามนโยบายรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นที่หน่วยงานสังกัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ลด ละ เลิกการใช้โฟมและพลาสติกอย่างจริงจัง ตั้งแต่การจัดประชุมให้ใช้แก้วน้ำส่วนตัว ลดใช้ภาชนะที่ทำจากพลาสติกและโฟม รณรงค์ใช้ถุงผ้า และกล่องบรรจุอาหารแทนการใช้ถุงพลาสติกและกล่องโฟม ร้านค้าร้านอาหารในหน่วยงานงดใช้โฟมบรรจุอาหาร งดจ่ายถุงพลาสติกใส่ยาให้ผู้ป่วยกลับบ้านในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร และศูนย์บริการสาธารณสุขทุกแห่ง เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์นมโรงเรียนจากถุงนมซึ่งทำมาจากพลาสติกมาเป็นกล่องนมยูเอชที อีกทั้งยังได้จัดอบรมข้าราชการกรุงเทพมหานคร เรื่องภัยพลาสติกและโฟม เพื่อให้มีความเข้าใจปรับตัวหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกอย่างยั่งยืน และสำนักงานเขตทุกเขตได้จัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการลดการใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งในชุมชน สถานศึกษา และสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของการนำขยะพลาสติกไปใช้ประโยชน์ กรุงเทพมหานครยังได้ร่วมกับบริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการ “วน” เพื่อลดขยะพลาสติกอย่างยั่งยืนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยรับบริจาคพลาสติกชนิดอ่อน ถุงและฟิล์มพลาสติกที่ใช้แล้ว เช่น ถุงน้ำแข็ง ฟิล์มหุ้มขวดน้ำ ถุงขนมปัง ถุงหูหิ้ว เป็นต้น เพื่อนำมารีไซเคิลเป็นเม็ดพลาสติกและนำไปผลิตเป็นถุงใช้ซ้ำ (ถุงวน) เป็นการลดปริมาณขยะพลาสติกที่จะออกสู่สิ่งแวดล้อม และลดปริมาณขยะทั่วไปที่เข้าสู่ระบบกำจัด โดยพลาสติกทุก 1 กิโลกรัมที่รับบริจาค โครงการจะตอบแทนเป็นเงิน 5 บาท เพื่อบริจาคให้กับองค์กรการกุศลที่ผู้เข้าร่วมโครงการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรุงเทพมหานครมีมาตรการรณรงค์ทิ้งขยะแยกประเภทโดยตั้งถังรองรับมูลฝอยในที่สาธารณะ 2 ประเภท ได้แก่ ถังสีเหลือง สำหรับทิ้งขยะรีไซเคิล ถังสีน้ำเงิน สำหรับทิ้งขยะทั่วไป และได้ปรับปรุงรถเก็บขนมูลฝอยให้มีช่องแยกสำหรับเก็บขยะแยกประเภทไปพร้อมกับการเก็บขยะทั่วไป โดยมีช่องสำหรับใส่ขยะเพิ่มอีก 2 ประเภท บริเวณหลังคนขับรถ ได้แก่ ช่องสีเหลือง สำหรับใส่ขยะรีไซเคิล ช่องสีส้ม สำหรับใส่ขยะอันตราย ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือประชาชน ลด ละ เลิกการใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น ช้อน มีด ส้อม พลาสติก ถุงพลาสติก เลือกใช้ภาชนะที่ใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลได้ และช่วยกันลดปริมาณขยะโดยคัดแยกขยะที่รีไซเคิลขายหรือบริจาค ใส่ถุงมัดปากด้วยเชือกสีเหลืองให้แน่น วางข้างถังขยะ เพื่อให้พนักงานเก็บใส่ช่องสีเหลืองหรือถุงที่เตรียมไว้ และแยกขยะอันตราย เช่น หลอดไฟ กระป๋องสเปรย์ ถ่ายไฟฉาย แบตเตอรี่ ยาหรือเครื่องสำอางหมดอายุ ใส่ถุงสีส้มหรือถุงสีอื่นและผูกด้วยเชือกสีส้มให้แน่น วางข้างถังขยะ เพื่อให้พนักงานเก็บใส่ช่องสีส้มหรือถุงขยะอันตรายที่เตรียมไว้ และนำไปกำจัดด้วยวิธีที่เหมาะสมต่อไป

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link