วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 15.00 น.ที่บริเวณลานสะพานริศ ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้มีประชาชนประมาณ 30,000 คน จากหลายอำเภอ เช่น อ.ดอนสัก , บ้านนาสาร , พระแสง , เคียนซา , บ้านนาเดิม , กาญจนดิษฐ์ , เวียงสระ , พุนพิน , เมืองสุราษฎร์ธานี สวมเสื้อเหลืองชูธงชาติ และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 เดินทางมารวมตัวกัน
รวมพลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีส่วนหนึ่งที่บ้านอยู่ในคลองสายน้ำแม่น้ำตาปีเดินทางโดยเรือหางยาวหลายลำมาสมทบ โดยมีป้ายข้อความ ประเทศไทยต้องมีสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ คู่แผ่นดินตลอดไป , เวลาเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน แต่ความจงรักภักดีไม่มีวันเปลี่ยน , ใครไม่เอาในหลวง ก็ไปอยูที่อื่น อย่ายืนบนผืนแผ่นดินไทย , หยุด คุกคามสถาบัน เป็นต้น

จากนั้น ได้บนเวทีได้เชิญตัวแทนคณะแต่ละอำเภอขึ้นกล่าวแสดงเจตนารมณ์ปกป้องสถาบัน ซึ่งมีตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ขึ้นกล่าวแถลงการณ์ปกป้องสถาบันฯจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และตัวแทนในนามกลุ่มสุราษฎร์เมืองคนดี ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้อ่านแถลงการณ์ 6 ข้อ ขอให้ลูกหลาน พี่น้องประชาชนและนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ออกมาชุมนุมหยุดกล่าวร้ายจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ในทันที และหยุดคุกคาม ล่วงล้ำสิทธิของบุคคลอื่น รวมทั้งหยุดสร้างความขัดแย้งใดๆ ซึ่งยังหากมีการกระทำที่จาบจ้วงทางกลุ่มจะออกมาแสดงพลังอีกครั้ง

เวลา 17.00 น.กลุ่มพลังมวลชนทั้งหมด ได้จัดเดินขบวนรวมพลังแสดงจุดยืนปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นแถวยาวกว่า 2 กิโลเมตร ไปยังศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี โดยนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่างๆ ร่วมรับแถลงการณ์และร่วมร้องเพลงชาติเวลา 18.00 น.และจุดเทียนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ดังกึกก้องก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ.