ปส.แถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ 4 คดี พร้อมกัญชาอัดแท่งยางกัญชาจำนวนมาก มูลค่ารวมกว่า 25 ล้านบาท
ด้านผู้บัญชาการปส.รับขบวนการเริ่มเปลี่ยนรูปกัญชาเป็นยางกัญชา เพื่อเพิ่มมูลค่า
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันแถลงข่าวผลจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 4 คดี ผู้ต้องหา 7 คน พร้อมกัญชาน้ำหนักประมาณ 1,088 กิโลกรัม / ยางกัญชาน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม / ยาบ้าจำนวนประมาณ 106,000เม็ด / ไอซ์น้ำหนักประมาณ 5.4 กิโลกรัม และ เคตามีนอีก 850 กรัม มูลค่ากว่า25 ล้านบาท
โดยหนึ่งในคดีที่น่าสนใจ คือคดีที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 จับกุมนายสมพรหรืออ๊อด กัณหาวงศ์ อายุ 27 ปี และพวกรวม4 คน พร้อมยึดกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 15 ก้อนใหญ่ น้ำหนักเกือบ 600 กิโลกรัม และยางกัญชา 3 กิโลกรัม
ได้ภายในสถานีบริการปั๊มน้ำมัน จังหวัดอุดรธานี
หลังจากช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาตำรวจปส.กับทหารเรือร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาพร้อมกัญชาได้กว่า 1,300 กิโลกรัม จากการขยายผลพบว่าจะมีการลักลอบขนกัญชาเพิ่มด้วยรถกระบะในวันที่ิ28เมษายน โดยนำเข้าจากชายแดนจังหวัดหนองคายและจะนำมาปล่อยในพื้นที่ตอนในกรุงเทพ และลงภาคใต้ ตำรวจจึงสกัดจับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางทั้งกัญชาอัดแท่งและยางกัญชาไว้ได้ที่อ.บ้านดุง จ.อุดรราชธานี
พล.ต.ท.สมหมาย ระบุว่า ปกติจะพบเพียงกัญชาอัดแท่ง แต่ภายหลังพบการเปลี่ยนรูปแบบของกัญชา ผ่านกระบวนการเคี่ยวให้เป็นยางกัญชา เพื่อให้ง่ายต่อการลำเลียง และมีมูลค่าที่สูงกว่ากัญชาสด หลายเท่า จากราคากัญชาสดกิโลกรัมละ 1 หมื่นบาท เมื่อแปรเป็นยางกัญชาจะมีมูลค่าสูงถึงกิโลกรัมละ 5 แสนบาท เนื่องจากต้องใช้ปริมาณกัญชา100กิโลกรัมเคี่ยวได้ยางกัญชาเพียง 1กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งจะมีฤทธิ์รุนแรงกว่ากัญชาสดหลายเท่า และจะทำลายระบบภายในร่างกายจนถึงขั้นเสียชีวิตมาก ทั้งนี้สืบสวนพบว่ากัญชาล็อตดังกล่าวจะถูกนำส่งไปยังภาคใต้ ก่อนส่งออกไปยังประเทศแถบยุโรปและอเมริกา
นอกจากนี้ตำรวจยังสามารถจับกุมขบวนการลักลอบขนกัญชาอัดแท่ง /ยาไอซ์/ยาบ้า และเคตามีนได้รวมอีก 3 คดี ได้ผู้ต้องหารวม 3 ราย โดยตำรวจเตรียมขยายผลจับกุมเพิ่มเติม ทั้งนี้ในปี 2561 สามารถจับกุมขบวนค้าบาเสพติดได้ทั้งหมด 1,266 คดี ยึดของกลางพร้อมทรัพย์สินได้ทั้งหมดมูลค่า4,400 ล้านบาท
Leave a Reply