มูลนิธิครอบครัวพอเพียงจัดพิธีประกาศรางวัล “รางวัลเกียรติยศ” ครั้งที่ ๑๔ ประจำปี การศึกษา ๒๕๖๒

มูลนิธิครอบครัวพอเพียง จัดพิธีมอบ “รางวัลเกียรติยศ”คร้ังที่ ๑๔ โครงการครอบครัวพอเพียงสู่สถานศึกษา
และชุมชน ประจำปี การศึกษา พ.ศ.๒๕๖๒ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนครอบครัวพอเพียงมีจิตสำนึกในการเป็นจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวมในฐานะรากแก้วของแผ่นดิน ตลอดจนการสร้างเครือข่ายสมาชิกเยาวชนครอบครัว
พอเพียงขยายไปยังเยาวชนในสถานศึกษาและในชุมชนภายใต้ชื่อ “ศูนย์ครอบครัวพอเพียง” ให้มีจิตอาสาน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาปฏิบัติอย่างเข้าใจและยั่งยืน โดยในคร้ังนี้ ได้รับเกียรติจาก คุณหญิงกลัยา
โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธี
โครงการครอบครัวพอเพียงสู่สถานศึกษาและชุมชนประจำ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ เพื่อการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่สถานศึกษาและชุมชน ผลสัมฤทธิ์ของโครงการฯเป็นที่ประจักษ์โดยมีเครือข่ายแกนนำจิตอาสามากที่สุดในประเทศครอบคลุมทั้ง๗๖จังหวัดรวมกว่า๔๕๗ โรงเรียน จากจำนวนเยาวชน กว่า๗๐,๐๐๐ คน
และมีผู้ติดตามโครงการฯผ่านช่องทางสื่อออนไลน์“facebook fanpageครอบครัวพอเพียง”กว่า๕ล้านคนทั่วโลกนางอริยสิริ พิพัฒน์นรา (ประธานกรรมการมูลนิธิครอบครัวพอเพียง) กล่าวถึงการจัดงานในคร้ังนี้ว่า “มูลนิธิ
ครอบครัวพอเพียง ได้ดำเนินโครงการครอบครัวพอเพียงสู่สถานศึกษาและชุมชน และได้จัดพิธิมอบ “รางวัล
เกียรติยศ” ขึ้นทุกๆปีการศึกษา โดยในครั้งนี้เป็นของปีการศึกษา ๒๕๖๒ และเป็นคร้ังที่ ๑๔ แล้ว ทางมูลนิธิจัดขึ้นเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับท่านผู้บริหารสถานศึกษา คณาจารย์และเยาวชนครอบครัวพอเพียง ให้ทุกๆคนพร้อมนำ
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักการในการดำ เนินชีวิตและพัฒนาสังคม ตลอด ๑๔ ปี ที่ทางมูลนิธิทำโครงการ
มากมายเพื่อการส่งเสริมการพัฒนา มาจากรากแก้วของของสังคมนั่นก็คือเยาวชน เราพยายามสร้างเครือข่าย
ครอบครัวพอเพียงให้ได้มากที่สุด เพื่อการพัฒนาสังคมแบบถาวรและยั่งยืน”
สำหรับการจัดกิจกรรมคร้ังนี้มีผู้เข้าร่วมพิธีคือผู้แทนองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมสนับสนุนโครงการ ฯ จำนวน
๘ คน ผู้บริหาร คณาจารย์และเยาวชนแกนนำครอบครัวพอเพียง จำนวน ๕๐๐ คนจาก ๑๕๒ สถานศึกษา ทั้งนี้ทางโครงการ จัดพิธีมอบรางวัลเกียรติยศ
๑๖รายการ รวมรางวัลทั้งสิ้นจำนวน๓๘๓รางวัล
คุณหญิงกัลยาโสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กในยุคดิจิตอลว่า’ ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ทั้งสิ่งแวดล้อมสังคมทุกอย่างเปลี่ยนไปตามโลกที่เราเรียกกันว่ายุคดิจิตอล ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาคุณภาพชีวิตคือการวางแผนการเลี้ยงดู การวางแผนการศึกษา เริ่มจากการเลี้ยงดูให้เด็กอยู่กับธรรมชาติให้มาก อยู่กับการสร้างจินตนาการให้มาก พ่อแม่สอนศีลธรรมรูปเพื่อการพัฒนาสมองก่อนเข้ารับการศึกษา เมื่อเข้ารับการศึกษาในทุกวันนี้ ดิฉันได้วางแบบแผนรากฐานให้กระทรวงศึกษาธิการเน้นสอนเด็กยุคดิจิตอล ให้เกิดการพูดฟังอ่านเขียนการวิเคราะห์การตัดสินใจการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดกระบวนการคิดอย่างมีตรรกะ มีการวางแผนโดยระบบทั้งหมดนี้จะทำให้เด็กมีกระบวนการเรียนรู้อย่างมีระบบ มีการวางแผนที่ถูกต้องทำให้เด็กรู้ตัวเองว่าชอบอะไรถนัดอะไร สนใจในด้านไหนเป็นต้น การวางรากฐานเหล่านี้จะทำให้คุณภาพของเด็กไทยสามารถประสบความสำเร็จได้รวดเร็ว และสิ่งที่ตามมานั่นก็คือการมีคุณภาพชีวิตที่ดีครอบครัวสภาพแวดล้อมและสังคมที่ดี ทำให้ประเทศชาติเจริญก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link