แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานีแก้ปัญหาเรื่องที่ดิน พร้อมเปิดเวทีประชาคม ระดมความคิดเห็นในการจัดระเบียบพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวตามนโยบายของ คสช.

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานีแก้ปัญหาเรื่องที่ดิน พร้อมเปิดเวทีประชาคม ระดมความคิดเห็นในการจัดระเบียบพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวตามนโยบายของ คสช.
เมื่อเวลา 10.00 ของวันนี้ (11 พ.ค.61 ) ที่ศาลาการเปรียญวัดเกาะเจริญสันติธรรม ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัด สุราษฎร์ธานี พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีพบปะรับฟังความคิดเห็นในการจัดระเบียบพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ในพื้นที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพน้อยที่ที่ 4 , พลตำรวจโท สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8, นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี, หัวหน้าส่วนราชการ, ตัวแทนผู้ประกอบการตลอดจนผู้นำท้องถิ่นและประชาชน ในพื้นที่ร่วมกิจกรรม
สำหรับการเปิดเวทีในครั้งนี้เบื้องต้นได้มีการชี้แจงภาพรวมของปัญหาในพื้นที่ จากนั้น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รายงานผลการปฏิบัติงานในภาพรวม และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ และประชาชนแสดงความคิดเห็น ก่อนที่แม่ทัพภาคที่ 4 จะได้สรุปสั่งการและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป

พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่4 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อมาติดตามความคืบหน้าและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ตลอดพร้อมทั้งมอบนโยบายและเน้นย้ำการปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานราชการในพื้นที่หลังจากที่ได้ส่งกำลังพลในส่วนของกองรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 4 ลงมาปฏิบัติภารกิจในการจัดระเบียบพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเกาะเต่าจังหวัดสุราษฎร์ธานีมาระยะหนึ่งแล้ว โดยท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานราชการทุกภาคส่วนในพื้นที่ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน อย่างเติมขีดความสามารถในทุกๆ ด้านด้วยความจริงใจและมีความสุจริตยุติธรรมเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคมส่วนรวม อีกทั้งจะนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาสัมผัส แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่เกาะเต่า ประกอบด้วยปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของชาวบ้าน ปัญหาเรื่องขยะ ซึ่งแก้ปัญหานั้นได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการ ซึ่งการจัดระเบียบเมืองท่องเที่ยวมีจุดหมายปลายทางเพื่อทำให้ประชาชนมีความสุข มีอาชีพ มีรายได้ มีความปลอดภัย และนักท่องเที่ยวต้องอยู่อย่างมีความปลอดภัยสูง และทำอย่างไรให้เป็นสถานที่ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนให้ได้มากที่สุด ด้วยความไม่เอารัดเอาเปรียบกัน บริสุทธิ์และจริงใจซึ่งกันและกัน

ส่วนข้าราชการนั้นต้องลงมือทำงานอย่างเต็มที่
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่จะต้องไม่ส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตชาวบ้าน แต่ต้องอยู่ในกฎหมายและอยู่ในระเบียบที่รัฐบาลให้ไว้ รวมทั้งการจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ ตลอดจนการควบคุมราคาในการให้บริการและการดำเนินการต่อผู้บุกรุกพื้นที่สาธารณะ ตลอดจนการดำเนินการต่อสถานบริการ ทั้งนี้ประเด็นหลักที่ต้องดูแลและควบคุมให้ดี คือ การอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวให้ได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และดำนเนินมาตราการรักษาความปลอดภัยให้เป็นที่ยอมรับ ซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ในภาพรวมของประเทศ

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link